บุกรังแก๊งขอทานต่างด้าว พบส่วนใหญ่ "หน้าเหลว-พิการ"

บุกรังแก๊งขอทานต่างด้าว พบส่วนใหญ่ "หน้าเหลว-พิการ"

42406 ก.ย. 67 17:52   |     AdminNews

รวบขอทานต่างด้าว 10 คน คาห้องพัก พบใช้ความน่าสงสารพิการ หน้าเหลว หารายได้กับคนไทย ได้วันละ 5,000 บาท เตรียมส่งตัวกลับประเทศ - ขยายผลแก๊งค้ามนุษย์

จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ก.ย.2567) กัน จอมพลัง และทีมงาน ได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้ารวบตัวชายขอทานชาวกัมพูชารายหนึ่ง หนึ่งในขบวนการแก๊งขอทานหน้าเหลว ที่บริเวณตลาดคลองจั่น ประกอบกับเมื่อตรวจสอบพบว่า เมื่อเดือนมีนาคม 67 ที่ผ่านมา เคยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและบุกจับหนึ่งในแก๊งขอทานนี้ และพบว่าเป็นคนเดียวกัน

ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ย.67) ที่ สน.คันนายาว กัน จอมพลัง และคุณเบตตี้ จุฑามาศ ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ และสื่อมวลชน รวมถึงตำรวจ สน.คันนายาว ได้ร่วมหารือถึงขบวนแก๊งขอทานกัมพูชาดังกล่าว พร้อมกับลงพื้นที่มายัง ซอยรามอินทรา 73 (หรือ ซอยรอดอนันต์ 8) แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า มีผู้หวังดี ประสานเข้ามาเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่มขอทานกัมพูชาหลบหนีโดยใช้ช่องทางธรรมชาติเข้าประเทศไทยมาแบบผิดกฎหมาย หลังจากนั้นจะเอาเด็กหญิงที่ไม่ใช่ลูกและไม่ใช่ญาติตัวเองมานั่งขอทานด้วย โดยจะสลับอ้างชื่อความสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ บางครั้งอ้างว่าเป็นแม่ บางครั้งอ้างว่าเป็นยาย 

แก๊งขอทานชาวกัมพูชากลุ่มนี้ จะมีรถเอเจนซี่ขับเข้ามาส่งตามจุดต่าง ๆ ในวันที่เข้าจับกุมได้หนึ่งรายนั้น ได้พยายามสอบถามว่าที่พักอยู่ตรงไหนพร้อมกัยให้พาไป แต่ชายแก๊งขอทานไม่สามารถพาไปได้เพราะไม่ทราบเส้นทาง ทราบเพียงว่ามาจาก กม.8 ปกติแล้วจะมีหัวหน้าชาวกัมพูชาที่รูปร่างหน้าตาปกติ เป็นคนรับส่ง 

หลังจากนั้นมี คนให้ข้อมูลอีกว่าในซอยรามอินทรา 73 หรือ ซอยรอดอนันต์ 8 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร แห่งนี้เป็นแหล่งของแก๊งขอทาน มีขอทานกัมพูชาหลายสิบคนอาศัยอยู่ย่านเดียวกัน บางคนหลังขอทานเสร็จก็กินเหล้าเมา ตีลูกตีเมีย พอได้เงินเยอะก็นั่งเล่นไพ่ หรือปาร์ตี้กัน 


ต่อมา เมื่อมาถึงสถานที่ดังกล่าว ห้องเป้าหมายพบว่ามีการล็อคกุญแจปิดจากด้านนอกทุกห้อง เมื่อสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง บางคนอ้างว่าไม่ทราบเพราะเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน บางคนบอกว่าเห็นขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปข้างนอกแล้ว สวนทางกับเจ้าหน้าที่

ขอทานกัมพูชา ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ได้เงินจากการขอทานมากที่สุด 5,000 บาท เมื่อวานนี้ก่อนถูกจับกุมได้เงิน 2,200 บาท รวมปีหนึ่งได้หลายแสนบาท เมื่อสอบถามว่า เหตุใดถึงได้เงินเยอะ ขอทานบอกว่า “คนไทยใจดี”

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (6 ก.ย.67) พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ รอง ผกก.ดส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 2 และ นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง ได้ตรวจค้นห้องพัก 3 ห้อง ที่เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มขอทานตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง พบคนพิการชาวกัมพูชา 10 คน จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลต่อที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี

พ.ต.ท.วรปรัชญ์ กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงานจาก กัน จอมพลัง ให้มาตรวจสอบว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านมาลักลอบขอทานอยู่ในพื้นที่ย่านรามอินทรา กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ก็ลงพื้นที่มาที่เกิดเหตุก็พบว่า จุดพักอาศัยอยู่ ล็อคห้องไว้ปิดเงียบ แต่พอดีว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเจอกลุ่มของแก๊งค์ชาวกัมพูชาเดินอยู่หน้าปากซอย ซึ่งในตอนแรกทั้ง 2 คนเห็นตำรวจแล้วก็รีบวิ่งหนี ทำให้มีพิรุธจึงได้วิ่งตาม สุดท้ายก็ได้เบาะแสว่าพักอาศัยที่ห้องเช่าติดกันทั้งหมด 3 ห้องนี้ 

เจ้าหน้าที่พากลุ่มคนกัมพูชามาเปิดห้องเพื่อตรวจสอบ จากการตรวจค้นเข้าพบชาวกัมพูชา 10 คนเป็นผู้ใหญ่ 6 คน และ เด็กอีก 4 คน เป็น (ผู้ชาย 3 คน , ผู้หญิง 3 คน , เด็กชาย 2 คน และ เด็กหญิง 2 คน ) รวมทั้งหมด 10 คน จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบเอกสารประจำตัวของแต่ละคน ซึ่งคาดว่าน่าจะหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย โดยขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาหลบหนีเข้าเมืองโดยที่ไม่มีใบอนุญาต ส่วนความผิดอื่นๆ เช่น จะมีเรื่องค้ามนุษย์เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมีการคัดแยกเหยื่อต่อไป

หลังจากนี้ทางตำรวจจะขยายผลอีกครั้งซึ่งจะต้องนำตัวทั้ง 10 คน ไปที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อไปสอบปากคำและขยายผลต่อ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นก็พบว่าแต่ละคนที่ใบหน้าเละเกิดจากอุบัติเหตุทั้งแก๊สระเบิดและน้ำกรด ส่วนเรื่องรายละเอียดที่ชัดเจน จะต้องมีการสอบถามกันอย่างละเอียดอีกครั้ง 

กัน จอมพลัง กล่าวว่า ขอชื่นชมทางตำรวจมาก วันนี้ถ้าหากตนไม่ได้ประสานไปที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และถ้าหากทีมของ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ก็คงกลับบ้านไปมือเปล่า ซึ่งในตอนแรกตนจะกลับแล้ว แต่บังเอิญไปเห็นตำรวจวิ่งไล่จับตัวกลุ่มคนกัมพูชามาได้ ทำให้สามารถขยายผล มาที่ห้องพักทั้ง 3 ห้องนี้ได้ 

ตนทราบมาว่า ภายในซอยรามอินทรา 73 ยังมีกลุ่มคนชาวกัมพูชาที่พิการและทำอาชีพขอทานอีกมากมาย แต่อาจจะมีคนรับออกไปหรือมีคนมาล็อคประตูห้องให้ ซึ่งวันนี้ก็อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ

“เชื่อว่าวันนี้สามารถเตือนสติคนไทยได้ว่าการต้องมีสติ ไม่ใช่ว่าให้เงิน 20-30 บาท แล้วคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่ความจริงแล้ว เขาเอาเด็กมาร่วมขบวนการ เด็กเหล่านี้ควรได้เรียน ได้ใช้ชีวิต น้องว่าควรหยุดให้เงินกลุ่มคนพวกนี้เพื่อที่ขบวนการเหล่านี้จะหายไป และถ้าหากใครพบเห็นก็สามารถแจ้งมาได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้”  



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง