ผัวเมียเล่นยาฉ่ำปอด ทั้งๆ ที่ลูก 3 เดือนยังกินนมแม่
ผัวเมียเล่นยาฉ่ำปอด ทั้งๆ ที่ลูก 3 เดือนยังกินนมแม่

สลดใจ ผัว 36 เมีย 21 เล่นยากันฉ่ำปอด ทั้งยาบ้า กัญชา แถมมีบุหรี่ไฟฟ้า ไม่สนใจสุขภาพของลูกน้อยวัย 3 เดือน ที่อยู่ห้องเดียวกัน และยังกินนมแม่อยู่!
(6 มี.ค. 68) นายโชคไชย สว่างรัตน์ นายอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่ามีสองสามีภรรยามั่วสุมเสพยาบ้า ดูดกัญชา และสูบบุหรี่ไฟฟ้าในบ้าน ทั้งที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกได้ 3 เดือนและยังให้นมลูกอยู่ เกรงจะส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกาย คุณภาพความเป็นอยู่และพัฒนาการของเด็ก จึงได้มอบหมายให้นายธนธรพล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง, นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอรับผิดชอบฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม, นายอมรินทร์ ทิพย์อักษร ปลัดอำเภอประจำตำบลชุมแสง ร่วมกับตำรวจสายตรวจประจำตำบล กำนันตำบลชุมแสง ผู้ใหญ่บ้าน รพ.สต.ชุมแสง และ เจ้าหน้าที่ อบต.ชุมแสง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับร้องเรียนเป็นกรณีเร่งด่วน
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ชุมแสง อ.นางรอง ก็พบนายแจ๊ค อายุ 36 ปี และ น.ส.เปิ้ล อายุ 21 ปี พร้อมลูกชายวัย 3 เดือนอยู่ภายในบ้าน จึงได้ขอตรวจปัสสาวะทั้งสองสามีภรรยา ก็พบมีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งทั้งสองคนก็ยอมรับว่าเสพยาบ้า ดูดกัญชา และสูบบุหรี่ไฟฟ้าจริง
จากการตรวจสอบภายในบ้านก็พบอุปกรณ์ในการเสพสารเสพติด และกัญชาจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้แจ้งข้อกฎหมายให้ทราบก่อนจะนำตัวผู้เป็นสามีไปบำบัด หากกระทำผิดซ้ำก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนภรรยาและลูกน้อยวัย 3 เดือนได้ส่งไปที่ รพ.นางรอง เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายทารกน้อยก่อน ส่วนผู้เป็นแม่ก็จะได้ทำการบัดบัดให้เลิกยาเสพติดด้วย
สอบถามนายอัษฎาวุธ เกตุผักแว่น กำนันตำบลชุมแสง กล่าวว่ากรณีนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ตนจึงได้รายงานนายอำเภอทราบ เมื่อนายอำเภอทราบเรื่องก็สั่งการลงมาให้เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กทันที
จากข้อมูลพบว่าสองสามีภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ที่ผ่านมาสามีเคยถูกจับคดียาเสพติดถูกส่งเข้าเรือนจำหลายครั้ง ส่วนภรรยาก็เสพยาบ้า เคยถูกส่งบำบัดมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เลิกทั้งที่เพิ่งคลอดลูกและยังต้องให้นมลูกอยู่ก็ยังเสพ
สอบถาม น.ส.เปิ้ลทราบว่าจะเสพสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 4 เม็ด เบื้องต้นก็ส่งบำบัด ผู้เป็นแม่รับปากว่าจะเลิก ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ติดตามดูว่าเลิกจริงหรือไม่ หากยังไม่เลิกก็จำเป็นต้องประสานทาง พม.รับเด็กไปดูแล เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับเด็ก
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
