สาวแม่ลูกอ่อนฉกทอง รับจำใจทำเพราะแอปเงินกู้

สาวแม่ลูกอ่อนฉกทอง รับจำใจทำเพราะแอปเงินกู้

47016 ม.ค. 68 09:22   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สาวแม่ลูกอ่อนก่อเหตุฉกทองจากร้านทองกรุงเก่า รับสารภาพทำไปเพราะไร้หนทาง เจอแอปเงินกู้เหลี่ยมใส่แถมขู่หนักว่าจะตามถึงบ้าน - เล่าชีวิตสุดลำบากเพิ่งคลอดก็ต้องออกไปวิ่งรถหาเงินมาเลี้ยงลูก

(16 ม.ค. 68) เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายเป็นหญิง รูปร่างอ้วน ทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปที่ร้านทองแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และขอให้พนักงานในร้านหยิบเอาถาดใส่ทองรูปพรรณ ขนาดเส้นละ 2 สลึง ออกมาให้ดู ก่อนฉวยจังหวะที่พนักงานหันไปทางอื่น ดึงเอาสร้อยทองเส้นหนึ่งกำซ่อนไว้ในมือ แล้วขอพนักงานออกไปกดเงิน ก่อนจะหนีหายไป


จนกระทั่งในเวลาช่วงเย็น พนักงานตรวจเช็คทองในร้าน จึงพบว่าสร้อยข้อมือ หนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น มูลค่า 22,600 บาท หายไป  จึงไปย้อนดูกล้องวงจรปิดจึงสามารถจับภาพคนร้ายได้และเดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ. พระนครศรีอยุธยา 



ต่อมา พ.ต.ท.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกสืบสวน ออกหาข่าวบุคคลตามกล้องวงจรปิดจนทราบชื่อคือ น.ส.สุวิชาดา อายุ 27 ปี  ชาว จ.เพชรบูรณ์ จึงขออนุมัติหมายศาลจังหวัดนครศรีอยุธยาออกหมายจับ ในข้อกล่าวหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ


และช่วงเย็นวานนี้(15 ม.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจนพบตัว น.ส.สุชาดา กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนสาธารณะภายในซอยประดู่ ถนนเตชะวนิจ  แขวงบางซื่อเขตบางซื่อ กรุงเทพกรุงเทพมหานคร  จึงทำการจับกุม พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุจากนั้นนำตัวมาสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย


น.ส.สุวิชาดา ผู้ต้องหา เปิดเผยว่าตนเองเป็นแม่ลูกอ่อนเพิ่งจะคลอดลูกได้เพียง 4 เดือน ระหว่างลาคลอดลูก ก็ทำอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชั่นรับส่งลูกค้า แต่ถึงอย่างนั้นรายได้ก็ไม่พอใช้ จึงได้เข้าไปกู้เงินผ่านแอปออนไลน์ จำนวน 7,000 บาท พร้อมเสียดอกเบี้ย 4,000 บาท



ตอนกู้ผ่านแอปออนไลน์แจ้งว่าเป็นการกู้รายเดือน แต่เมื่อกู้เสร็จพบว่าเป็นเงินกู้รายอาทิตย์ ทำให้ตนเองไม่สามารถหมุนเงินได้ประกอบกับ ถูกกดดันจากเจ้าหนี้และข่มขู่ว่าหากไม่คืนเงินในเวลาที่กำหนดจะไปที่บ้านตนเอง ทำให้ตนเองกลัวว่าจะถูกทำร้าย


ในวันที่เกิดก่อเหตุได้รับลูกค้าจากกรุงเทพมาส่งที่รังสิต จากนั้นรับลูกค้าจากรังสิตมาส่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างทางขี่รถมาส่งลูกค้าก็ถูกเจ้าหนี้โทรมาทวงเงินแล้วข่มขู่ ทำให้ตนเองกดดันไม่มีทางออก จึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น


หลังก่อเหตุตนก็ขี่รถจักรยานยนต์นำทองกลับไปขายที่ ในห้างแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร โดยได้เงินมาประมาณ 10,000 กว่าบาท และก็โอนเงินประมาณ 10,000 กว่าบาทไปให้เจ้าหนี้ทันที ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อนมให้ลูก จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติจนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง