ไม่รอด! รวบคนขับ 6 ล้อคลั่งชนดะ หนีซ่อนตัวในท่อระบายน้ำ

ไม่รอด! รวบคนขับ 6 ล้อคลั่งชนดะ หนีซ่อนตัวในท่อระบายน้ำ

34104 ก.ย. 67 19:27   |     AdminNews

หนีสุดชีวิต! คนขับ 6 ล้อคลั่งชนดะกลางกรุง ทำคนบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 2 ราย ก่อนขับรถหนีข้ามจังหวัด สุดท้ายไม่รอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ไล่ล่าคนขับรถ 6 ล้อคลั่งขับชนคนดะ ตร.ชักปืนยิงสกัดไม่เป็นผล

4 ก.ย.67 ภาพขณะที่ นาย วัลลภ อายุ 43 ปี ตัดสินใจจอดรถบรรทุกทิ้งกลางสะพานข้ามคลองบางน้ำจืด ในตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะกระโดดหนีลงน้ำภายในคลองบางน้ำจืด เพื่อหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าตัวใช้การลอยคอล่องตามลำคลองตามกระแสน้ำ แล้วเกาะกล่องโฟมเพื่อพยุงตัวเองให้ลอยคอหนีการจับกุม 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากสน.ท่าเรือและเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางพลี สนธิกำลังเดินเท้าติดตามทั้งสองฝั่งคลองเพื่อหวังเกลี้ยกล่อมให้นายภัลลภ ยอมมอบตัวและขึ้นมาจากคลอง แต่นายภัลภไม่ยอมและยังคงลอยคออยู่กลางคลอง เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าไล่ตามเพื่อไม่ให้คาดสายตา ท่ามกลางอุปสรรคต่างๆมากมายที่ริมคลอง อีกทั้งเจ้าหน้าที่เองไม่กล้าเข้าประชิดตัวนายภัลภล หลังจากที่ทราบว่าเจ้าตัวมีมีดทำครัวติดมือมาด้วย 


ผู้สื่อข่าวเราประจำพื้นที่ คุณต้นปราการ ได้ใช้เรือพายของชาวบ้านพ่ายสวนกระแสน้ำเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ค้นหาตัวนายภัลลภอีกทาง กระทั่งมาพบกล่องโฟมที่นายภัลภลใช้เกาะลอยคอตามกระแสน้ำมานั้น อยู่ที่ปากท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่หลังโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่นายภัลภลกระโดดลงคลองมาเกือบสองกิโลเมตร โดยมีชาวบ้านชี้ยืนยันว่าเห็นนายภัลภลครั้งสุดท้ายคือมุดเข้าท่อระบายน้ำหลบหนีไป 

ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดล้อมพื้นที่และประสานทางโรงงานดังกล่าวเพื่อหาแนวของท่อระบายน้ำดังกล่าวป้องกันการมุดท่อระบายน้ำหลบหนี จนกระทั่งทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่าท่อระบายน้ำดังกล่าวเป็นท่อตันไม่สามารถที่จะหลบหนีออกช่องทางอื่นได้นอกจากทางเข้าด้านหน้าคลอง 


ทำให้นายนรินทร์ กาเผือก ผู้ช่วยเจ้าพนักงานของสน.ท่าเรือ ต้องตัดสินใจมุดท่อเข้าไปสำรวจด้านใน กระทั่งไปเจอตัวนายภัลลภ นั้นมุดน้ำซ่อนตัวอยู่ด้านในจริง แต่เจ้าตัวถือมีดปลายแหลมไขว่ใส่เจ้าหน้าที่และไม่ยอมให้เข้าใกล้แต่อย่างใด ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะกดดันและเกลี้ยกล่อมทุกทางอย่างรัดกุม กระทั่งเวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ จนเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อบุตรสาวของนายภัลภลได้ จึงใช้โทรศัพท์ต่อสายตรงกับทางบุตรสาวให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้นายภัลภลนั้นยอมมอบตัว 

โดยใช้วิธีการให้เจ้าหน้าที่มุดท่อระบายน้ำเข้าไปแล้วเปิดโฟนให้นายภัลลภนั้นได้ยิน ซึ่งบุตรสาวได้มีการพูดคุยช่วยเกลี้ยกล่อมให้พ่อมอบตัว แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล และมีเสียงฝ่ายของนายภัลลภพูดกับลูกสาวว่าตนเองขับรถชนคนตายและไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งจังหวะนั้นเจ้าหน้าที่หันไปเห็นว่านายภัลภลกำลังใช้เชือกร่มที่ห้อยพระที่คอนั้นพยายามรัดคอตนเองและเริ่มมีอาการแย่ลง ฝ่ายสืบสวนจึงตัดสินใจเสี่ยงชีวิตมุดท่อระบายน้ำดังกล่าวเพื่อเข้าชาร์จในท่อระบายน้ำได้สำเร็จและรีบพาตัวออกมาด้านนอก ซึ่งพอออกมาจากท่อระบายน้ำพบว่านายภัลภลมีอาการหมดแรงหายใจติดขัดจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบางบางพลี 

พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา บนถนนอาจณรงค์ ในพื้นที่ของสน.ท่าเรือ โดยรถคันดังกล่าว ที่มีนาย ภัลภล เป็นคนขับได้ขับไปชนคนเดินข้ามถนนจนบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นเจ้าตัวได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าออกแยกกล้วยน้ำไท หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ทางด้านสายตรวจของสน.ท่าเรือได้ออกติดตาม ระหว่างนั้นพบว่าในระหว่างที่รถคันดังกล่าวหลบหนีนั้น ยังไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นในพื้นที่สน.ทองหล่อ 2 คัน ก่อนจะหลบหนีไปยูเทินที่หน้าโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ในพื้นที่ของสน.คลองตัน แล้วไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์และมีผู้บาดเจ็บสาหัสไปอีก 2 ราย ก่อนจะพยายามหลบหนีต่อ

กระทั่งสายตรวจของสน.ท่าเรือ ที่ไล่ติดตามมาทันที่แยกไฟแดงและพยายามเข้าสกัดจับกุมคนขับ แต่ปรากฎว่าคนขับได้ต่อสู้ขัดขืนและใช้มีดไขว่ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตามที่ปรากฎตามคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหลังจากทราบเรื่องจึงสั่งการให้ติดตามตัวคนขับรายนี้ให้ได้โดยเร็ว กระทั่งติดตามมาถึงกลางสะพานข้ามคลองบางน้ำจืดจากนั้นคนขับทิ้งรถแล้วกระโดดน้ำลงคลองเพื่อจะหลบหนี สุดท้ายสามารถจับกุมตัวได้ในท่อระบายน้ำดังกล่าว 


เบื้องต้นสั่งอายัดตัวและให้ตำรวจเฝ้าที่โรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ส่วนความผิดชัดเจนในเรื่องของการขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจอสบพยานหลักฐานอีกครั้ง ยืนยันจะต้องดำเนินคดีทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องโทษในคดียาเสพติดเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ส่วนการตรวจค้นภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง