'ทรัมป์' เตรียมเก็บภาษีนำเข้า 'ยา-เวชภัณฑ์' เร็วๆนี้

9 เม.ย.68 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ระหว่างการปราศรัยในงานเลี้ยงอาหารค่ำของคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรแห่งชาติพรรครีพับลิกัน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีแผนจะประกาศนโยบายการจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาในอัตราสูงในอนาคตอันใกล้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บริษัทผู้ผลิตยาย้ายฐานการผลิตกลับสู่สหรัฐอเมริกา 

โดย ทรัมป์ ระบุว่า “เราจะดำเนินการประกาศนโยบายการจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาในอัตราสูง เร็วๆนี้ และเมื่อบริษัทผู้ผลิตได้รับทราบถึงนโยบายนี้ พวกเขาจะพิจารณาย้ายฐานการผลิตจากจีนและประเทศอื่นๆ กลับมาสู่สหรัฐ” 

นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการลดการพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจาก จีน อินเดีย และกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหลักของยา และเวชภัณฑ์ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา

จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters)ระบุว่า คำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้รับการยืนยันว่า เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านการค้าเพื่อส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเพิ่มเติม เช่น อัตราภาษีที่แน่นอน และข้อกำหนดการบังคับใช้ นั้น ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ  

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมยาออกมาเตือนว่า การจัดเก็บภาษีนำเข้ายา อาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนยาและราคายาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตใน จีนและ อินเดีย ครอบคลุมความต้องการของตลาดโลกเกือบทั้งหมด ขณะที่ทั้งสองประเทศนี้ยังเป็นผู้ผลิตส่วนผสมหลักของยาที่ใช้อยู่กันอย่างแพร่หลาย อาทิ ไอบูโพรเฟน และไซโปรฟลอกซาซิน ซึ่งเป็นยาสำหรับใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียได้หลายโรค  

อย่างไรก็ตาม การย้ายฐานการผลิตของบริษัทยากลับสู่สหรัฐอเมริกา อาจกินระยะเวลาหลายปีและต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามมาอีกด้วย