ททท.เตรียมจัดกิจกรรม 'ไลฟ์ขายแพคเกจ' กระตุ้นการท่องเที่ยว

(16 ส.ค. 67) น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงโครงการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ (Short Haul Tourists) เพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ว่า การเตรียมจัดกิจกรรมไลฟ์ขายแพคเกจสินค้า เป็นกิจกรรมแรกในโครงการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยได้รับความร่วมมือจาก C Trip เว็บไซต์บริษัทจัดการท่องเที่ยวออนไลน์อันดับ 1 ของจีน และจะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ผ่านช่องทางไลฟ์สตรีม “Super World Tour BOSS LIVE” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนและจากตลาดใกล้เคียง อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไต้หวัน

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า การกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้รัฐบาลให้โจทย์ชัดเจน เราจะขายประเทศไทยแบบ 365 วัน เราจะขายทั้งตลาดระยะใกล้และตลาดระยะไกล รวมถึงการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวในประเทศ เป้าหมาย KPI ที่รัฐบาลให้ไว้ที่ 36.7 ล้านบาท และในส่วนของรายได้ 33-35 ล้านล้าน มันต้องมาพร้อมกับกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ เราก็ได้การสนับสนุนจากรัฐบาล และเราได้ทำโปรโมชั่นกับ OTA ชื่อดังทั่วโลก 9 แห่ง เป็นต่างชาติ 7 แห่ง และในประเทศ 2 แห่ง โดยมีการเปิดให้จองเข้ามาที่ประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2567 

สำหรับการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วง 3 เดือนนี้ ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และเราได้จัดกิจกรรมที่เรียกว่า “เสน่ห์ไทย” เป็นการแสดงอัตลักษณ์วัฒนธรรมประเพณี สินค้าบริการ ของประเทศไทยในภูมิภาค ซึ่งเราจะเริ่มจัดในเดือนกันยายนและคาดว่าการกระตุ้นในส่วนของภูมิภาคไม่ต่ำกว่า 250,000 คน ในแต่ละพื้นที่

"เราได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นตลาดในระยะใกล้เป็นตลาดศักยภาพ อย่างเช่น จีน โดยในเดือนกันยายน 2567 จะฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับการเปิดตัว Nihao Month ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2567 เราจะมีกิจกรรมไลฟ์ขายแพคเกจสินค้าเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงการเปิดสายการบินในเมืองรองเพื่อนำนักท่องเที่ยวจากไทยไปจีนและจีนมาไทย และตลาดที่เราให้ความสำคัญอีกแห่งหนึ่ง คือ มาเลเซีย ตอนนี้เราได้มีการเจรจาที่จะเปิดสายการบิน วันนี้ (15 สิงหาคม 2567) เป็นวันแรกที่มีเครื่องบินจากมาเลเซียเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่" ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวและว่า

ตอนนี้ทางรัฐบาล และ ททท. ได้เตรียมความพร้อมที่จะจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ “มหาสงกรานต์” ที่จัดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ปีนี้เราจะได้เห็น “ลอยกระทง เฟสติวัล” ทั้งในกรุงเทพฯ และในพื้นที่ต่าง ๆ และงานเคาท์ดาวน์ในปีนี้ก็จะจัดแบบยิ่งใหญ่ เพื่อให้สอดรับกับปีหน้าของการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าทั้งหมดนี้เป็นไปตามเป้าที่เราตั้งไว้ที่ 36.7 ล้านคน ตอนนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย 22 ล้านคนแล้ว เราหวังว่าการนำเสนอสถานที่ในนโยบาย 5 Must in Thailand ผ่านกิจกรรมนี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในประเทศไทย