ล่าตัวคนร้ายข่มขืนเด็กออทิสติก

ล่าตัวคนร้ายข่มขืนเด็กออทิสติก

57314 ส.ค. 67 13:55   |     AdminNews

แม่ร้องลูกสาววัย 8 ขวบป่วยเป็นออทิสติกถูกล่วงละเมิดทางเพศ พบประวัติพี่เลี้ยงเคยก่อเหตุมาก่อน วอนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

จากกรณีมีประชาชนร้องเรียนมายัง “มูลนิธิเป็นหนึ่ง” เข้าช่วยเข้าเหลือเด็กวัย 8 ขวบที่เป็นออทิสติก หลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ชลบุรี 


ล่าสุด วันที่ 14 ส.ค.67 เวลา 10.30 น. น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ คุณต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่งได้เดินทางมาพูดคุยกับนางสาวมิ้น (นามสมมติ) แม่ของเด็กผู้เสียหาย ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี 


โดยนางสาวมิ้น เผยว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องดูแลลูกสาว 2 คน โดยหนึ่งในนั้นมีลูกสาววัย 8 ปี ซึ่งเป็นเด็กออทิสติกที่ตนต้องดูแล ซึ่งอารมณ์ของลูกสาวคนนี้เป็นเด็กที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ จนบ้างที่ตนก็รู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้าน ตนจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวของตน และหาศูนย์ที่ดูแลฝึกฝนเด็กออทิสติกผ่านช่องทาง Facebook จนกระทั่งมีบุคลากรในศูนย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ชลบุรี (ศูนย์ส่งเสริมทักษะบุคคลออทิสติก จ.ชลบุรี) 

ได้ติดต่อมาสอบถามรายละเอียดของตน และลูก ๆ ทั้ง 2 คน หลังจากนั้นตนก็ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าที่ศูนย์ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าที่ก็ได้มีการแนะนำว่าให้ตนมาทำงานที่ศูนย์แห่งนี้ด้วยกันจะได้นำเด็กเข้ามาฝึกฝนพัฒนาการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งตนมองว่ามันไม่เสียหายอะไร อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อลูก ตนจึงตอบตกลง 


หลังจากนั้นตนก็ได้มาทำงานที่ศูนย์แห่งนี้ได้เกือบมาประมาณ 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ตนยอมรับว่า ด้วยความที่ตนเป็นโรคซึมเศร้า และโรคธาลัสซีเมีย ทำให้ร่างกายของตนค่อนข้างที่จะไม่แข็งแรง จึงทำให้หยุดงานบ่อยครั้ง และครั้งล่าสุด ตนก็ลาหยุดงานยาวไปถึงวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากแขน ขาไม่มีแรง 


ภายหลังจากที่ตนหยุดลาป่วยได้มีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดังกล่าวได้นำของมาเยี่ยมตน พร้อมเสนอให้ตนสามารถนำงานกลับมาทำที่บ้านได้ โดยช่วงเช้าก็พาลูกไปฝึกที่ศูนย์ และตอนเย็นก็รับกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนั่งทำงานที่ศูนย์ 


จนกระทั่งวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลา ประมาณ 07.45 น. ตนได้เดินทางไปที่ศูนย์ดังกล่าว เพื่อขนเอกสาร คอมพิวเตอร์ขึ้นรถ เพื่อนำงานกลับไปทำที่บ้าน ก่อนจะเดินทางกลับโดยฝากลูกสาวไว้ที่ศูนย์ให้เจ้าที่ดูแล หลังจากนั้นช่วงเย็นในวันเดียวกัน ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ตนได้เดินทางไปรับลูกกลับมาที่บ้าน ซึ่งในวันนั้นตนสังเกตเห็นลูกสาวมีอาการดูซึมเล็กน้อย และได้มีการจับมือตนไปนวดที่บริเวณท้องน้อย จนลูกเผลอหลับไป ซึ่ง ณ ตอนนั้นตนก็รู้สึกงงและเอะใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดถึงขั้นร้ายแรงอะไร คิดว่าลูกสาวปวดท้องธรรมดา 


ต่อมา วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนก็ได้มีการส่งลูกสาวไปที่ศูนย์ตามปกติ แต่ลูกสาวกลับมีอาการงอแงเล็กน้อย โดยไม่มีสาเหตุ อีกทั้งยังจับมือต้นไปนวดที่บริเวณท้องน้อยเหมือนกับวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา และลูกสาวก็พูดออกมาคำนึงว่า “เจ็บ” ณ ตอนนั้น ตนยอมรับว่า ไม่ได้คิดว่าลูกสาวจะถูกกระทำเช่นนี้ เลยไม่ได้เอะใจอะไรมากนัก เพราะลูกสาวมีปัญหาเรื่องลำไส้ เพราะที่ผ่านมาลูกสาวมักมีอาการปวดท้องบ่อยครั้ง 


จนกระทั่งวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ลูกสาวบอกปวดท้อง ตนจึงพาลูกสาวไปเข้าห้องน้ำ และในขณะที่ลูกกำลังเบ่งอุจจาระออกมา ตนสังเกตุเห็นว่า มีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศ และดูเหมือนว่าตรงบริเวณอวัยวะเพศมีการฉีกขาดด้วย ด้วยความตกใจตนจึงรีบพาลูกสาวเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที


จนกระทั่งคุณหมอได้มีการแจ้งกับตนว่า ลูกสาวตนถูกล่วงละเมิดจริง และตอนนี้ลูกสาวตนยังรักษาตัวที่ รพ.ชลบุรี อยู่เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อให้ครบ 28 วัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้พยายามสอบถามลูกสาว แต่ลูกสาวก็ไม่ยอมตอบ และไม่มีการพูดจาใดๆ 


หากถามว่า ตนรู้สึกสงสัยใครหรือไม่ ณ ตอนแรก ตนยอมรับว่ารู้สึกสงสัยพ่อเลี้ยงและน้องชาย แต่ทั้งสองก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการให้พาเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีและยินดีให้ทางเจ้าที่ตำรวจตรวจสอบ พร้อมกับมีการช่วยตนรื้อเสื้อผ้าของลูกสาวในวันเกิด และพบคราบสีน้ำตาลอยู่บริเวณกางเกงของลูกสาว ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 


โดยหลังเกิดเหตุตนได้มีการแจ้งไปยังผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว ซึ่งทางศูนย์ก็ยินดีให้ความร่วมมือกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น นอกจากนี้ตนยังได้มีโอกาสสอบถามกับพี่คนสนิทภายในศูนย์ดังกล่าวว่า วันเกิดเหตุทราบหรือไม่ ว่ามีพี่เลี้ยงคนใด ดูแลลูกสาวตน ซึ่งทางพี่คนสนิทอ้างว่า มีพี่เลี้ยงผู้หญิงในศูนย์ 1 คน และผู้ ช่วยพี่เลี้ยงเป็นผู้ชายอีก 2 คน ซึ่งส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้สอบถามกับทางศูนย์ว่า คนที่เลี้ยงลูกสาวตนในวันนั้นเป็นใคร ในส่วนอาการของลูกสาวตน ณ ตอนนี้ ก็ดีขึ้นมากแล้ว กินได้ แต่ก็ยังมีอาการปวดท้องอยู่เล็กน้อย 


ทั้งนี้ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกกังวลว่า ถ้าหากมีการตรวจสอบแล้วและพบว่าผู้กระทำความผิดไม่ใช่คนในศูนย์ดังกล่าว ตนกลัวจะถูกทั้งศูนย์ฟ้องกลับ


ด้านนางสาวชลิดา ระบุว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วได้มีการพูดคุยกับทางแม่ของเด็กหญิง พร้อมทั้งประสานไปยัง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบ หาตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เนื่องจากศูนย์เด็กดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของพัฒนาสังคม จังหวัดชลบุรี รวมถึง ได้มีการประสานตำรวจ สภ.แสนสุข เพื่อสอบปากคำผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้ได้มีการเชิญตัวทั้งพ่อเลี้ยงของเด็ก รวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลเด็กที่อยู่ประจำศูนย์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลเด็กหญิงผู้เสียหาย ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ มีการยืนยันว่า เด็กหญิงระล่วงละเมิดทางเพศ ในวันที่เท่าไหร่ ตำรวจจึงเก็บหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด 16 ตัว ที่อยู่ภายในศูนย์ ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบว่าในช่วงระยะเวลา ที่แม่สงสัยว่าลูกสาวจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ มีความผิดปกติ อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ รวมถึงเค้นสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งก็เชื่อว่าจะสามารถหาตัวคนผิดได้ 


ซึ่งตอนนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องหาตัวคนที่ก่อเหตุกับตัวเด็ก ซึ่งหากเป็นคนในศูนย์จริง ก็จะต้องมีการพูดคุยเนื่องจาก มีเด็กอีกหลายคนที่อยู่ในสวนดังกล่าว ส่วนแม่ของเด็กเอง ก็มีผู้ต้องสงสัย ที่อยู่ในใจแล้ว ซึ่งก็ให้ข้อมูลกับทางตำรวจไปทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะพัฒนาสังคม จังหวัดชลบุรีก็ยืนยันว่าหากพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ จริง จะไม่มีการละเว้น โดยเด็ดขาด และ ทางพัฒนาสังคมเอง ยินดีที่จะให้ความร่วมมือรวมถึงดูแลเด็กและแม่หลังจากนี้  



ทางผู้อำนวยการได้มีการเปิดหลักฐานวงจรปิดภายในศูนย์ให้สื่อมวลชนตรวจสอบ ซึ่งมั่นใจว่า ภายในศูนย์รับดูแลเด็กออทิสติกไม่มีเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศน้องวัย 8 ขวบ ที่แม่มาฝากเลี้ยงอย่างแน่นอน โดยได้ส่งมอบกล้องวงจรปิดจำนวน 16 ตัวให้กับตำรวจได้ทำการตรวจสอบแล้ว ตลอดจนได้ทำการประชุมพี่เลี้ยงเด็กที่เป็นออทิสติก เพื่อไล่ทามไลน์ว่าใครทำอะไรบ้าง ซึ่งทุกคนก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิด 


ขณะที่ข้อมูลของแม่เด็กระบุว่า ลูกสาวรู้สึกปวดท้องน้อยช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา นั่นหมายถึงปวดท้องก่อนจะมาฝากลูกที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กออทิสติกแห่งนี้ จึงทำให้น้ำหนักการเกิดเหตุภายในศูนย์แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่หากแม่เด็กสงสัยก็ยินดีนำพี่เลี้ยงเด็กออทิสติกเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามกฏหมาย 


อย่างไรก็ตาม ผอ.ศูนย์ บอกเพิ่มเติมว่า แม่เด็กมีปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งคนในศูนย์ก็ช่วยเหลือให้ยืมเงินตลอดมา แต่จำนวนเงินที่ยืมเริ่มเยอะขึ้นจึงสั่งห้ามให้แม่เด็กยืมเงินแล้ว และต่อมาก็มาเกิดเหตุลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศขึ้นอีก 


สำหรับที่ศูนย์ดูแลเด็กออทิสติกได้ปิดชั่วคราว เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งทาง ผอ. ระบุว่าหากได้รับผลกระทบทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจะดำเนินการตามกฏหมาย เนื่องจากให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดีและตรวจสอบแล้วไม่พบการก่อเหตุรุนแรงลักษณะตามที่แม่เด็กกล่าวอ้างภายในศูนย์ 

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง