ล่าแก๊งจีนบุกบ้านหรูปทุมฯปล้นเพื่อนร่วมชาติบังคับโอนเงินดิจิทัล

ล่าแก๊งจีนบุกบ้านหรูปทุมฯปล้นเพื่อนร่วมชาติบังคับโอนเงินดิจิทัล

60814 ส.ค. 67 22:31   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

แก๊งโจรแดนมังกรบุกบ้านหรูปทุมฯปล้นเพื่อนร่วมชาติบังคับโอนเงินสกุลดิจิทัล 2 ล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทย 70 ล้านบาท ตร.เร่งไล่ล่า

(14ส.ค.67) พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งมีเหตุปล้นทรัพย์ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านหรู พื้นที่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จึงรุดไปพร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน

   

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 2 ชั้น โดยมีผู้พักอาศัยชายหญิงรวม 6 คน แบ่งเป็น ชาย 3 คน หญิง 3 คน พบผู้เสียหายคือ ชาย สัญชาติจีน เชื้อชาติจีน อายุ 34 ปี นักธุรกิจ


ผู้เสียหาย ให้การว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวจีนมาด้วยกันจำนวน 4 คน พร้อมอาวุธครบมือใส่หมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าได้มาทำการจับผู้เสียหายและบังให้โอนเงินสกุลดิจิทัล 2 ล้านเหรียญเข้าบัญชีคิดเป็นเงินไทยจำนวน 70 ล้านบาท โดยญาติผู้เสียหายที่อยู่ประเทศจีนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่ามีการโกรธแค้น หรือหนี้สินอันใดกันมาก่อนหรือไม่ 


ผู้เสียหาย บอกอีกว่า เพียงแต่ทราบว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 4 นั้น ได้บุกรุกเข้ามาในบ้าน แล้วบังคับให้ญาติผู้เสียหายโอนเงินจำนวนดังกล่าวมาให้ และได้หลบหนีไปทางออกฝั่งสะพานปทุมธานี 2 ช่วงเวลา 02.45 น. โดยนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด พร้อมรถยนต์ของผู้เสียหายไปด้วยเป็นรถยนต์หรูโตโยต้ารุ่นอัลพาร์ดสีดำ


ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายและยานพาหนะผู้เสียหายที่คนร้ายนำไป พร้อมเชิญตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียด

   

ต่อมา เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์หรูของผู้เสียหายจอดอยู่ที่ริมถนนเลียบคลองประปา ใกล้โรงไฟฟ้า ม.45 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึดและยกรถไปทำการตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เพื่อเก็บวัตถุพยานภายในรถยนต์คันดังกล่าว ก่อนจะนำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต  


ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ได้ลงมาสอบปากคำด้วยตนเองร่วมกับพนักงานสอบสวนโดยเร่งสอบปากคำทุกคนในบ้านอย่างละเอียด และให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางการหลบหนียานพาหนะของคนร้าย พร้อมเช็กเส้นทางการเงินเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีทางกฎหมาย



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง