ถูกด่าว่า "กระจอก" หนุ่มใหญ่ ใช้ขวานจามหัวป้าวัย 54 ปี ดับคากระท่อม

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 20 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุฆาตกรรม ที่บ้านหนองขนาน ต.โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 22.30 น. (19 ก.พ.68) เกิดเหตุมีชายใช้ขวานจามหัวผู้หญิงเสียชีวิต ที่กระท่อมกลางสวนยางพารา หลังบ้านเลขที่ XX หมู่ 6 ต.โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ผู้ก่อเหตุคือ นายนิพล (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี หรือ "จ่อย" ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นางราตี (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี 

เมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ขนเต็นท์มาเตรียมกาง โดยมีชาวบ้านพาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ ที่เป็นกระท่อมหลังบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งสภาพพื้นที่เกิดเหตุ มีกองเลือดกองอยู่ที่พื้น มีรองเท้าวางอยู่ 2 คู่ ซึ่งเป็นรองเท้าของผู้เสียชีวิตและของผู้ก่อเหตุ (คู่สีขาวของผู้ตาย คู่สีน้ำตาลของผู้ก่อเหตุ) 

โดยนายบรรจง (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ XX หมู่ 6 ต.โพธิ์กะสังข์ ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้อยู่บ้าน เพราะไปช่วยงานศพญาติที่อยู่ต่างหมู่บ้าน ตนมาทราบว่าภรรยาถูกฆ่าตาย ก็เพราะผู้ใหญ่บ้าน โทรไปบอกเมื่อช่วงเวลา 4 ทุ่มกว่า ทั้งนี้ตนกับ นายจ่อย ผู้ก่อเหตุ รู้จักกันมานานแล้ว เมื่อช่วงกลางวันก่อนที่ตนจะออกไปงานศพ ก็ยังเจอและพูดคุยกันอยู่ 

ตนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้นายจ่อย ฆ่าภรรยาของตน น่าจะเกิดจากการทะเลาะวิวาท แล้วเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวบวกกับดื่มสุราและเมาด้วย ทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงก่อเหตุขึ้น ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุเคยถูกดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ตนไม่คิดว่านายจ่อยจะฆ่าภรรยาตนได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ ยืนยันจะไม่ให้อภัยไอ้จ่อย ผู้ก่อเหตุเด็ดขาด

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.กันทรอม โดยได้พูดคุยกับ นายจ่อย ผู้ต้องหา ระบุถึงสาเหตุที่ต้องลงมือฆ่า นางราตรี เพราะตนมึนเมา บวกกับผู้ตายมักพูดดูถูกตนว่าตนชั่ว ว่าตนกระจอก จะทำอะไรกับตนก็ได้ พูดแต่คำเหล่านี้มาโดยตลอดต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว ปกติตนจะชอบมาคลุกคลีกับครอบครัวผู้ตายเป็นประจำ เวลาบ้านผู้ตายมีงาน ก็จะเรียกใช้ตนอยู่ตลอด ผู้ตายจะให้เงินใช้ หุงข้าวทำกับข้าวให้กิน ขวานที่ตนใช้ก่อเหตุก็เป็นขวานของผู้ตายที่ให้ตนไว้ใช้

ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ ปิยะพันธ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.กันทรอม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ควบคุมตัวและนำตัวผู้ต้องหาไปที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้เสียชีวิตจริง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ก่อนจะเรียกชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ โดยสภาพศพผู้เสียชีวิต บริเวณศีรษะด้านซ้าย มีบาดแผลขนาดใหญ่ ยาวจากกลางหัวถึงหน้าผากเหนือคิ้ว แผลยาวประมาณ 18-20 เซนติเมตร และบริเวณกระท่อมที่เกิดเหตุพบขวานที่มีคราบเลือดตกอยู่ และมีร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ ยังพบเหล้าขาวที่ยังกินไม่หมดอยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วย 

เบื้องต้น ตำรวจนำตัวนายจ่อย มาตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง หรือมีสารเสพติดในร่างกาย พร้อมกับรับสารภาพว่า ตนเป็นคนลงมือใช้ขวานจามหัวผู้ตายจริง ทั้งนี้ได้ตั้งข้อหากับนายจ่อย ว่า "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พกพาอาวุธขวานไปที่หมู่บ้านหรือที่สาธารณะ และเสพสารเสพติด" ก่อนจะได้นำตัวฝากขังที่ศาลกันทรลักษ์ ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.68) ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน