หนุ่มคลั่งยาซ่าผิดที่ เจอเทรนเนอร์กล้ามโตล็อกคอสิ้นฤทธิ์

(4 ธ.ค. 67) จากกรณีที่ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 โพสต์ข้อความพร้อมคลิปเหตุการณ์ ระบุว่า “เตือนภัย..พิษภัยยาเสพติด อันตรายต่อชุมชนมาก เตือนภัยสังคมสมัยนี้ยาบ้ามันถูกมากจริงๆ  สมัยนี้เมายาทำร้ายร่างกายผู้อื่น คนอื่นต้องมาเจ็บตัวเสียเวลา เสียทั้งเงินทอง เสียการเสียงานเพื่อรักษา เราทำอะไรก็ต้องระมัดระวังนะครับสมัยนี้ เกิดเหตุแถวตลาดหนองตม ต้องขอขอบพระคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ.พรหมพิราม ที่ติดตามเรื่องให้ครับ”

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ประสบเหตุ ทราบชื่อคือ นายปฐมพงษ์ อายุ 43 ปี อาชีพเทรนเนอร์ฟิตเนส เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 08.56 น. ของวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา

ขณะนั้นตนเองทำอาชีพเสริม คือ เปิดร้านจำหน่ายพระเครื่อง พระบูชา อยู่ที่ตลาดหนองตม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มที่ปรากฏอยู่ในคลิปทำทีมาพูดคุยกับพี่ชายตนเรื่องซื้อขายพระเครื่อง

จากนั้นก็หายไปก่อนเดินถือโพยหวยใต้ดินมาให้ตน แล้วพูดว่าจะแจ้งตำรวจจับ ตนก็ตอบกลับไปว่าผมไม่เล่นหวย แล้วพี่รู้จักผมเหรอ ชายคนดังกล่าวก็เดินกลับไป แล้วย้อนกลับมาพร้อมกับท่อนเหล็กขนาดพอดีมือ เดินตรงปรี่เข้ามาฟาดใส่ตนไม่ยั้ง

ขณะนั้นตนก็ได้ระวังตัวเอาไว้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายหรือตอบโต้กลับรุนแรงใดๆ เพราะตนเองมีสติดีพอ ได้แต่ยื้อยุดฉุดกระชากท่อนเหล็กในมือ สุดท้ายก็มีช่วงชุลมุนถูกเหล็กตีตามร่างกายบ้าง และถูกชกเข้าที่เบ้าตาจนมีเลือดออก

ก่อนจะใช้กำลังล็อกคอชายรายนี้จนนิ่งสงบลงได้ สุดท้ายก็มีญาติของผู้ก่อเหตุเดินมาห้ามปรามและช่วยเหลือ จนผู้ก่อเหตุอาศัยจังหวะวิ่งหลบหนีไป จากนั้นตนจึงได้ไปพบแพทย์และเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับชายที่ก่อเหตุที่ สภ.พรหมพิราม

ล่าสุดวันนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ได้สำเร็จ และเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตรวจพบปัสสาวะมีสีม่วง ซึ่งตนจะแจ้งความทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งเรื่องค่ารักษาพยาบาลต่อไป

ทั้งนี้ตนจึงอยากฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชน สมัยนี้ยาบ้า ยาเสพติด มีเยอะ และราคาถูกมากๆ คนเสพก็มีเยอะขึ้น ฉะนั้นเราต้องคอยดูคอยระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะคนแบบนี้อันตราย ขนาดตนเองเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนสมากกว่า 20 ปี ออกกำลังกายตลอดยังโดนขนาดนี้เลย แล้วถ้าเหตุการณ์นี้ไปเกิดกับผู้หญิง คนแก่ หรือเด็ก โดนทำร้ายร่างกายอาจจะหนักกว่านี้หลายเท่า หรือถ้าเกิดคนร้ายมีอาวุธหรือของมีคมอื่นๆ ตนเองคงไม่ได้มานั่งพูดเตือนสติแบบนี้แล้วก็ได้