“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตรจริง แต่เป็นจุด “No Man’s Land”
“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตรจริง แต่เป็นจุด “No Man’s Land”
“ภูมิธรรม” ย้ำใช้เวที JBC เคลียร์ปมชายแดน ยันจุดกัมพูชาตั้งกำลังอยู่ในเขต No Man’s Land ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นของฝ่ายใด รอข้อสรุปชัดเจน 14 มิ.ย. ยืนยันไทยไม่ยอมเสียอธิปไตย ขณะกองทัพเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
วันที่ 5 มิถุนายน 68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีปัญหาเขตแดนไทย–กัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหารว่า ฝ่ายไทยยอมรับว่าฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ราว 200 เมตรจริง แต่จุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณ “No Man’s Land” หรือเขตกันชนที่ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นของฝ่ายใด และเป็นประเด็นที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยเขตแดน (JBC)
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวสารบางส่วนที่บิดเบือน เช่น ภาพทุ่นระเบิดที่ปรากฏในสื่อเป็นภาพเก่าจากอีกจุดหนึ่ง ไม่ใช่หลักฐานการวางระเบิดใหม่ และแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันว่าไม่มีการขุดวางทุ่นในจุดที่เป็นประเด็น ส่วนการกล่าวหาว่าไทยนิ่งเฉยขณะถูกละเมิดนั้น ไม่เป็นความจริง และถือเป็นการบั่นทอนความร่วมมือของประชาชนทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ไทยยืนยันใช้แนวทางสันติ และใช้กลไกเจรจาผ่านเวที JBC เพื่อให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยเชื่อว่าการประชุมในวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญ จะเป็นจุดชี้ขาดให้เห็นความชัดเจนว่าฝ่ายใดละเมิดข้อตกลงในข้อที่ 5 ของ JBC
"การรุกล้ำ 200 เมตร นั้น ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น NO MAN LAND เมื่อมีการเข้ามาในจุดนี้ ซึ่งฝั่งกัมพูชาคิดว่าเป็นจุดของเขา ดังนั้นจึงเป็นการละเมิดข้อตกลงของ JBC ข้อ 5 ซึ่งไทยก็มีข้อมูลหลายอย่าง อย่างไรก็ตามถือว่าไทยได้เริ่มต้นจากจุดสันติวิธี และเชื่อว่า JBC จะมีคำตอบได้ หากกัมพูชาไม่ยอมรับในประเด็นปัญหานี้ ดังนั้นต้องรอข้อสรุปทั้งหมดจากการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่กรุงพนมเปญ ถือเป็นกลไกระหว่างประเทศที่ไทยทำกับชายแดนทุกภาคส่วน ที่จะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ" - ภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมยังระบุว่า กองทัพไทยได้เตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์บานปลาย โดยย้ำว่าไทยไม่ได้ยอมใคร และจะไม่ยอมสูญเสียสิทธิ์เหนือดินแดนที่ยังไม่มีข้อสรุป นอกจากนี้สภาความมั่นคงแห่งชาติได้ตั้งคณะอนุกรรมการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และในกรณีที่จำเป็น แม่ทัพภาคสามารถพิจารณาปิดด่านชายแดนชั่วคราวได้ตามขั้นตอน
"ย้ำว่าจุดที่กัมพูชามาตั้ง คือ NO MAN LAND ที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นจุดของใคร ดังนั้นอยากให้กลับมาอยู่จุดเดิม โดยแม่ทัพภาคที่ 2 บอกกับตัวเองชัดเจนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ถอยมาในจุดเดิม แต่กัมพูชาไม่ยอมถอย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง" - ภูมิธรรมกล่าว
สำหรับกรณีที่กัมพูชาอ้างในการประชุม IISS Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ ว่าทหารไทยเป็นต้นเหตุให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต นายภูมิธรรมชี้แจงว่า เป็นเพียงการสอบถามจากบุคคลระดับปฏิบัติการ ไม่ใช่ตัวแทนรัฐ และไม่มีการกล่าวหาบนเวทีอย่างเป็นทางการ จึงไม่ถือเป็นประเด็นที่ต้องตอบโต้ในระดับนานาชาติ
นายภูมิธรรมยืนยันว่า ไทยมีเอกสารหลักฐานยื่นประท้วงทุกครั้ง ทั้งต่อ JBC และในการเจรจาทางทหารกับฝ่ายกัมพูชา พร้อมชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่การบุกยึดแผ่นดินไทย แต่เป็นข้อพิพาทในพื้นที่ทับซ้อนที่ยังต้องเจรจา หวังให้ทุกฝ่ายใช้สติในการติดตามข่าวสาร ไม่สร้างกระแสที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการเจรจา
สุดท้าย นายภูมิธรรมเน้นย้ำว่า ประเทศชาติควรมาก่อนการเมือง และไม่ควรนำเรื่องละเอียดอ่อนอย่างข้อพิพาทชายแดนมาใช้เป็นเครื่องมือทำลายความน่าเชื่อถือของบุคคลหรือรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไทยกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาผ่านกลไกที่นานาชาติยอมรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กัมพูชาออกแถลงการณ์ยันส่ง 4 พื้นที่ เข้าสู่ศาลโลก ชี้กลไก JBC ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ทบ.ขอบคุณ ปชช. หนุนทหาร ย้ำทำหน้าที่เต็มที่ในกรอบระบบ
“ภูมิธรรม” เรียก สมช.ถกด่วนพรุ่งนี้ วางมาตรการตอบโต้กัมพูชา
"ภูมิธรรม"ชี้ไทยยังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป ชื่นชมทหารไทย - แม่ทัพภาคที่ 2
