ศึกชิงลูกสาว 5 ขวบ พ่อเลี้ยงอ้างเลี้ยงมารักเหมือนลูกแท้ๆ

ศึกชิงลูกสาว 5 ขวบ พ่อเลี้ยงอ้างเลี้ยงมารักเหมือนลูกแท้ๆ

115412 พ.ค. 68 15:57   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

แม่วัย 23 ร้อง อยากได้ลูกสาวอายุ 5 ขวบคืนจากครอบครัวอดีตสามีที่เป็นพ่อเลี้ยงของเด็ก เผยเคยหอบลูกหนีเพราะถูกใช้ความรุนแรง แต่แม่ย่ามาขโมยตัวกลับไป หวั่นต่อไปมีปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ - ฝั่งพ่อเลี้ยงอ้างเลี้ยงมาก็รักเหมือนลูกแท้ๆ

(12 พ.ค. 68) นายภัทรพงศ์  ศุภักษร  หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์  พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ ได้พา น.ส.พิงค์  อายุ 23 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ. เข้าแจ้งความที่ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีที่นายนึก อายุ 40 ปี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง  ซึ่งเป็นอดีตสามีที่เลิกรากันแล้ว  ได้ยึดตัว ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ ของ น.ส.พิงค์ เอาไว้นานเกือบ 3 ปี  ทั้งที่นายนึก ไม่ใช่พ่อแท้ๆ และยังมีพฤติกรรมดื่มเหล้าเมาชอบใช้ความทำรุนแรง ฝ่ายหญิง จึงเกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตรายและกลัวหากเด็กโตขึ้นจะสุ่มเสี่ยงถูกกระทำทางเพศด้วย เพราะฝ่ายชายไม่ใช่พ่อแท้ๆ   


น.ส.พิงค์   ยังให้ข้อมูลอีกว่า ตอนที่มาอยู่กินกับนายนึก ตั้งครรภ์มาก่อนแล้ว 6 เดือน ซึ่งฝ่ายก็ทราบ  พอคลอด ก็ยังใช้ชีวิตอยู่กับนายนึก ตอนนั้นตนอายุแค่ 18 เข้าใจว่าเมื่อคลอดเด็กต้องมีพ่อ  จึงใส่ชื่อนายนึก เป็นพ่อเด็กทั้งที่ตัวนายนึก  แม่นายนึก หรือแม่กระทั่งคนในหมู่บ้านก็รู้ว่านายนึก ไม่ใช่พ่อของเด็ก  ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเรื่อย  แต่นายนึก เป็นคนโมโหร้ายและดื่มสุรา   เวลาไม่พอใจอะไร ก็จะชอบทำลายข้าวของบางครั้งก็ทำร้ายร่างกายตนเอง จนทนไม่ไหว


กระทั่งลูกสาวอายุประมาณ 2 ขวบเศษ จึงได้พาลูกหนีไปอยู่บ้านญาติ  แต่แม่ของนายนึก ก็แอบมาขโมยเอาลูกไปคืน  แต่ตนไม่กล้าตามไปเอาลูกคืนเพราะกลัวอดีตสามีจะทำร้าย จึงตัดสินใจไปหาแม่ที่กรุงเทพฯ ไปทำงานก่อสร้าง ที่ผ่านมาก็พยามติดต่อขอลูกคืนหลายครั้ง แต่นายนึกไม่ยอมให้บอกว่าถ้าอยากได้ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู และยังเคยทำร้ายลูกสาวประชดตนเองด้วย จึงตัดสินใจร้องเรียนทนายอั๋น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เพราะอยากได้ลูกสาวไปเลี้ยงดูตามสิทธิ์ความเป็นแม่แท้ๆ



หลังแจ้งความที่โรงพัก  ทนายอั๋น พร้อมบ้านพักเด็กฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ  เจ้าหน้าที่เทศบาลหนองเต็ง และกำนัน ก็ได้เดินทางไปยังบ้านของนายนึก ซึ่งเป็นอดีตสามีของผู้ร้องและเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.เอ วัย 5 ขวบ  ทันทีที่ น.ส.พิงค์ ได้เจอลูกสาว ก็ดีใจต่างฝ่ายต่างก็กอดกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ พยายามจะกันตัวเด็กออกไปก่อนเพราะไม่อยากให้กระทบสภาพจิตใจ เพื่อให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยโดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนกลางในการพูดคุย


ซึ่งทนายอั๋น  และเจ้าหน้าที่ก็มีการพูดคุยเจรจาอยู่หลายชั่วโมง  นายนึก ซึ่งก็ยอมรับว่าไม่ใช้พ่อแท้ๆ ของเด็ก รวมถึงแม่ของนายนึก ด้วย  ก็ยืนกรานว่าไม่ให้ น.ส.พิงค์ แม่แท้ๆ เอาลูกสาวไป   โดยอ้างว่าเขาเลี้ยงมาก็รักเหมือนลูกเหมือนหลานแม้จะไม่ใช่สายเลือดแท้ๆ  ขณะเดียวกันนายนึก  ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาก็พยายามถาม ด.ญ. 5 ขวบว่าจะอยู่กับใคร  เด็กก็ตอบหลายรอบว่าอยากไปอยู่กับแม่ ซึ่งดูเหมือนว่าจะจบลงด้วยดี  แต่สุดท้ายนายนึก และแม่ก็ไม่ยอมให้เอาเด็กไปและพยายามกดดันจนเด็กเปลี่ยนใจไม่ไป 


ทำให้ น.ส.พิงค์  แม่แท้ๆ สงสารลูกไม่อยากให้กระทบสภาพจิตใจ  จึงยอมที่จะให้อดีตสามี และแม่อดีตสามีเลี้ยงไปก่อนสัก 1 ปี และระหว่างนี้ก็พยายามลางานมาหาลูกบ่อยๆ ทั้งจะส่งเงินมาช่วยค่าเลี้ยงดูด้วย  แต่หากฝ่ายชายใช้ความรุนแรง หรือสุ่มเสี่ยงที่ลูกจะไม่ปลอดภัย  ก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและเอาลูกสาวไปทันที 


ด้านทนายอั๋น  ระบุว่า   กรณีนี้สามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายดำเนินการได้อยู่แล้ว เพราะฝ่ายหญิงเป็นแม่แท้ๆ  ส่วนฝ่ายชายที่เป็นอดีตสามีไม่ใช่พ่อแท้ๆ แม้จะลงแจ้งในใบเกิดระบุว่าเป็นพ่อ  แต่ฝ่ายชายก็ยอมรับว่าไม่ใช่พ่อแท้ๆ  แต่หากนึกถึงความรู้สึกที่ฝ่ายชายและแม่ฝ่ายชาย ที่เลี้ยงดูเด็กมาตั้งเด็กแม้สภาพความเป็นอยู่จะดูไม่ปลอดภัยกับเด็กเท่าที่ควร  อีกทั้งฝ่ายชายก็ชอบดื่มสุรามึนเมาและมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง


แต่เมื่อพูดคุยแล้วฝ่ายหญิงซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ไม่อยากให้กระทบสภาพจิตใจลูกและเห็นใจที่เด็กยังผูกพันกับฝ่ายชาย  จึงยอมที่จะยังไม่รับลูกไปในวันนี้  แต่จะมาเยี่ยมและส่งเสียงเลี้ยงดูตามกำลังไปก่อน เมื่อครบกำหนดตามที่ตกลงถึงจะรับไปเลี้ยง  แต่ระหว่างนี้หากมีเหตุการณ์ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับก็จะมี  เจ้าหน้าที่เข้ามาคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก  และอาจจะให้แม่ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat