แม่ยันศพสาวนิรนามในพงหญ้าคือลูกสาว เผยก่อนเป็นศพเอารถไปคืนแฟนหนุ่ม

แม่ยันศพสาวนิรนามในพงหญ้าคือลูกสาว เผยก่อนเป็นศพเอารถไปคืนแฟนหนุ่ม

57308 มิ.ย. 67 12:57   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

แม่ยันศพสาวนิรนามถูกทิ้งในพงหญ้าที่เขาย้อยคือลูกสาว เผยก่อนหายตัวไปโทรบอกกำลังจะเอารถไปคืนแฟนหนุ่มหลังทะเลาะกัน เชื่อเป็นการฆาตกรรม

(8 มิ.ย.67) จากกรณีเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบศพสาวนิรนาม ที่นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้า ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 144 อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พบที่ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกาสายสีฟ้าเรือนทอง 1 เรือน ที่นิ้วกลางสวมแหวนทอง 1 วง และที่ข้อมือขวาสวมสร้อยลูกปัดหินมงคล 1 เส้น ที่หัวไหล่ด้านซ้ายมีรอยสัก 1 แห่ง

ซึ่งศพมีสภาพเน่าเปื่อยไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ว่าเป็นใคร คาดว่าเป็นศพ น.ส.เบญจรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ญาติได้โพสต์ประกาศออกตามหา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปเก็บรักษาที่วัดถ้ำแก้ว อ.เมือง จ.เพชรบุรี เพื่อรอญาติเดินทางมาตรวจสอบและยืนยันตัวตน จากนั้นจะส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (พบศพหญิงปริศนาริมถนนเพชรเกษม ลุ้นคนเดียวกับที่หายตัวไปที่ภูเก็ตไหม)


คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.67) น.ส.พรพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว ต.กวนวัน อ.เมือง จ.หนองคาย เดินทางมายัง สภ.เขาย้อย เขาพบ พ.ต.อ.ธิป ผกก.สภ.เขาย้อย เพื่อให้ข้อมูลและยืนยันตัวตน ว่าศพสาวนิรนามที่พบคือบุตรสาวของตน เนื่องจาก จำรอยสักรวมถึงแหวน นาฬิกาที่สวมใส่ได้



น.ส.พรพรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานโรงงาน แล้วลาออกไปทำงานฟาร์มหมูที่ จ.พิจิตร จากนั้นไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยไม่ทราบว่าทำงานอะไร ก่อนพบศพเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ลูกสาวโทรมาบอกว่าได้ทะเลาะกับนายเค ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม โดยนายเคน ได้ทวงรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า ทะเบียน x สษ-5xxx กรุงเทพฯ ตนจึงบอกลูกว่าให้ขับรถไปจอดที่สถานีตำรวจที่ใกล้เคียง และให้นายเคมารับรถเอง เนื่องจาก เป็นห่วงลูก กลัวจะถูกนายเคทำร้าย 

ลูกสาวจึงได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจาก จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีกเลย กระทั่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าพบศพและส่งรูปให้ดู จึงแน่ใจว่าเป็นบุตรสาวของตนจริง ตนเชื่อว่า ต้องเป็นการฆาตกรรมอย่างแน่นอน จึงขอให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง