น้ำน่านไหลเชี่ยวแรง ซัดแพร้านอาหารชนสะพาน

(28 ก.ย. 67) เวลา 14.00 น. ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำแม่น้ำน่านที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติและไหลแรงมากในช่วงนี้ ส่งผลทำให้ เรือนแพร้านอาหารที่บริเวณ ใกล้เคียงสะพานเอกาทศรถ ถูกทิ้งร้างนับปีอยู่ในแม่น้ำน่านได้พังทลาย บางส่วนจมลงไปในแม่น้ำน่าน และบางส่วนได้หลุดลอยไปกับกระแสน้ำ สร้างความตื่นกลัวและกังวลใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก 

น.ส.อาทิตยา แม่ค้าขายอาหารตามสั่งได้ถ่ายวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นเอาไว้ได้ เธอเล่าว่า ตนเองได้ยินเสียงดังมาจากเรือนแพ และเห็นว่าแพกำลังแยกออกจากกัน ก็กังวลว่า ชาวเรือนแพที่อยู่ท้ายน้ำอาจจะได้รับอันตราย จากชิ้นส่วนโครงเหล็ก และเรือนร้านอาหาร จะหลุดลอยไปชน จนทำให้เกิดความเสียหาย จึงได้โพสต์คลิปแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขสถานการณ์

และห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ที่บริเวณ สะพานพระสุพรรณกัลยา น.ส.เกวลิน แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเรือ บอกว่า กำลังขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ได้พบเห็นเหตุการณ์ความโกลาหล เมื่อมีคนขับเรือหางยาวหลายลำ พยายามประกบ แพที่ทำเป็นเทอเรสที่นั่งของร้านอาหาร กำลังลอยมาตามลำน้ำอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความเร็วและแรงของกระแสน้ำ ส่งผลทำให้ แพดังกล่าวได้ชนเข้ากับตอม่อส่งเสียงดัง จากนั้นชาวบ้านได้พยายามประคองแพนี้ไปเข้าตลิ่งบริเวณพื้นที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้หลุดลอยไปตามแม่น้ำน่านและอาจเป็นอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและราชการ

ห่างจากสะพานพระสุพรรณกัลยาไปได้ประมาณ 500 เมตร พลเมืองดีสามารถนำเอา แพเทอเรสของแพร้านอาหารไปผูกไว้ที่บริเวณร้านส้มตำริมแม่น้ำได้อย่างปลอดภัย และชิ้นส่วนโครงเหล็กที่เหลือก็นำไปผูกไว้บริเวณโรงสูบน้ำประปาที่อยู่ห่างจากจุดแรกอีก 400 เมตร รวมแล้ว เรือนแพร้านอาหารที่เกิดเหตุแพแตกในวันนี้ หลุดลอยไปในกระแสน้ำประมาณ 3 กิโลเมตร

นายนพดล เจ้าของแพที่ประสบเหตุบอกกับผู้สื่อข่าวว่า แม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก และกระแสน้ำพัดแรงมาก ตนเองผูกมัดแพเอาไว้อย่างดีแล้ว และตั้งใจจะซ่อม แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ความเสียหายที่เกิดก็คงจะต้องรื้อแพทิ้ง ถึงแม้ว่าตนเองจะใช้เชือกสลิงผูกมัดเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงกระแสน้ำได้ 

นอกจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว ยังพบในตัวเมืองพิษณุโลก ยังมีเรือนแพร้าง และเรือนแพอาหาร ที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ทรุดโทรม และพัง ชิ้นส่วนหลุดลอยออกไปตามน้ำเป็นระยะ ๆ โดยยังไม่มีเจ้าภาพที่จะเข้ามาดำเนินการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น จากเศษไม้ หรือโครงเหล็กที่อาจจะเข้าไปกระแทก ปัก ขูด ตลิ่ง ให้พัง ตลอดแนวลำน้ำน่านแต่อย่างไร