กล้องชัดอีกมุม! แม่ร้องสื่อ เก๋งหรู นักการเมืองท้องถิ่น ข้ามเลนตัดหน้าลูกชายชนดับ
กล้องชัดอีกมุม! แม่ร้องสื่อ เก๋งหรู นักการเมืองท้องถิ่น ข้ามเลนตัดหน้าลูกชายชนดับ

กล้องชัดอีกมุม! แม่ร้องสื่อ เก๋งหรู นักการเมืองท้องถิ่น ข้ามเลนตัดหน้าลูกชายชนดับ ไร้น้ำใจ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
(28 ก.พ.68) กรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถเย็นเก๋ง คนขี่บาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองปากพนัง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบคนเจ็บเป็นชายชื่อนายธนวัฒน์ หรือ บอส อายุ 17 ปี จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลปากพนัง และพบรถจักรยานยนต์ของคนเจ็บ สภาพพังเสียหายชนอัดติดประตูฝั่งคนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิล ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งทราบชื่อนายยุทธา หรือ โกอู๊ด อายุ 70 ปี เป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นคนดัง ใน อ.ปากพนัง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกล้องหน้ารถของพลเมืองดี บันทึกนาทีก่อนเกิดเหตุรถจักรยานยนต์คนเจ็บขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็ว แซงซ้ายรถยนต์เก๋งของพลเมืองดี เป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์เก๋งคู่กรณีออกจากเลนซ้ายเข้าช่องกลับรถตัดหน้า รถจักรยานยนต์คนเจ็บ โดยรถยนต์เก๋งไม่เปิดไฟเลี้ยวขวา เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ของคนเจ็บพุ่งชนประตูฝั่งคนขับอย่างจังร่างกระเด็นได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุดหลังจากนายธนวัฒน์ หรือ บอส อายุ 17 ปี คนเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากอวัยวะภายในถูกกระแทกอย่างแรงจนบอบช้ำอย่างหนัก แพทย์โรงพยาบาลปากพนัง จึงส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ นายธนวัฒน์ หรือบอส เสียชีวิตเมื่อกลางดึกวานนี้ ( 27 ก.พ. ) ท่ามกลางความเสียใจของญาติๆ และเพื่อนนักศึกษา
ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้ ( 28 ก.พ.) ญาติ ๆนำศพนายธนวัฒน์ หรือบอส มาบำเพ็ญกุศลที่วัดเสาธงทอง เขตเทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียชีวิตของญาติและเพื่อนนักเรียนที่เดินทางมาร่วมรดน้ำศพ
นางสาวชุติมา อายุ 53 ปี แม่ของน้องบอส ยอมรับว่า ตอนนี้กังวลเรื่องคดี กลัวไม่ได้รับคาเป็นธรรม เพราะคนขับรถเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังใน อ.ปากพนัง นอกจากนี้ที่ผ่านมาคนขับรถไม่เคยมาเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาลแม้แต่ครั้งเดียว หลังเกิดเหตุคนขับพยายามโทรศัพท์เสนอเงิน 2 หมื่นบาท เพื่อเยียวยา แต่ตนและครอบครัวไม่รับ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีคนขับให้ถึงที่สุด ส่วนกรณีที่ลูกชายขับรถค่อนข้างเร็ว ตนยอมรับ แต่หากคนขับรถยนต์เก๋งไม่กลับรถตัดหน้า อุบัติเหตุก็ไม่เกิดขึ้นเพราะดูจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดี และกล้องวงจรปิดโรงรับจำนำเทศบาลเมืองปากพนัง พบว่าคนขับรถยนต์เลี้ยวกลับรถข้ามเลน โดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว และยังตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของลูกชายชัดเจน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
