เสียรู้มิจฉาชีพส่งคิวอาร์โค้ดจ่ายค่าไฟ สูญ 6.5 แสนบาท

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ขณะที่ พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งจากนายสำรอง หรือ แอ่น (สงวนนามมกุล) อายุ 42 ปี และ น.ส.อุไรกร หรือ แนน (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี สามีภรรยา ชาวบ้านสามพร้าว ม.12 ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี แจ้งความร้องทุกข์ว่า เมื่อเวลา 10.02 น. วันนี้ ถูกแก๊งมิจฉาชีพชายและหญิง โทรมาหลอกให้โอนเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ ผ่านทางแอปพลิเคชั่นของธนาคารฯ และฝากให้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยกลโกงของแก๊งมิจฉาชีพ

โดยคนร้ายได้ส่งคิวอาโค้ดของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาให้ผู้เสียหายสแกนจ่าย เพื่อจ่ายค่าใช้ไฟฟ้าจำนวน 2,835 บาท แต่เงินถูกโอนออกจากบัญชีไป 652,320 บาท เมื่อเวลา 10.24 น.ซึ่งในสลิประบุเงินถูกโอนจากบัญชีของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทยของ MR.Kittisak หรือนายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) เหลือเงินในบัญชี 1,620 บาท จึงมาแจ้งความเป็นหลักฐาน เพื่อนำไปแจ้งต่อธนาคารให้ดำเนินการอายัดเงินที่โอนไป คาดว่าเป็นบัญชีม้าของแก๊งมิจฉาชีพ และให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายมาดำนินคดีตามกฎหมาย

นายสำรอง ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเป็นช่างรับเหมาไฟฟ้า เงินที่ถูกคนร้ายหลอกให้โอนไปเป็นเงินที่ตนหามาทั้งชีวิต ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บ้าน ส่วนแม่อยู่กระท่อมนา โดยแม่โทรมาบอกว่า มีเจ้าหน้าที่ กฟภ.แจ้งให้ไปจ่ายค่าไฟฟ้าที่ค้างชำระ และเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากค่าไฟแพง หากเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่ที่กำลังวัตต์สูง จะจ่ายค่าไฟฟ้าถูกลง หากเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่ก็จะไปติดตั้งให้ และจะได้เงินประกันมิเตอร์อันเก่าคืน เป็นเงิน 4,500 บาท แต่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่ค้างชำระ 2,835 บาท 

จากนั้น แม่ได้โทรมาบอกเบอร์โทรแก๊งมิจฉาชีพให้ตนโทรกลับไปพูดคุย เบอร์โทรหมายเลข 064-609-9638 คนแรกเป็นผู้หญิงรับสาย อ้างว่าเป็นฝ่ายประสานงาน คนที่สองเป็นผู้ชายอ้างว่า เป็นฝ่ายบัญชี กฟภ.(PEAX) ตนหลงเชื่อจึงสแกนคิอาร์โค๊ด และทำตามแก๊งมิจฉาชีพบอก ก่อนกดยืนยันจ่ายผ่านทางออนไลน์ ผ่านไป 22 นาที ทางธนาคารส่งสลิปแจ้งการโอนเงินมาให้ตน จึงรู้ว่าเสียรู้แก๊งมิจฉาชีพ หลังแจ้งหความแล้ว เมื่อโทรไปหาแก๊งมิจฉาชีพตามเบอร์โทรที่ติดต่อมาหลายครั้ง โทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย

ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า ที่ไม่เอะใจอะไร เนื่องจากการทำธุรกรรมการเงิน ไม่ว่าจะจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดรถ ก็จะจ่ายผ่านทางแอพฯธนาคาร ซึ่งมีเพียงบัญชีเดียว เคยได้ยินข่าวมิจฉาชีพหลอกคนอื่นมาก็มาก และเคยมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอก แต่ตนก็ระมัดระวังมาตลอด และไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อ กระทั่งครั้งนี้ มิจฉาชีพหลอกตนได้แนบเนียนมาก จากการพูดคุยกับมิจฉาชีพทั้งชายและหญิง พูดจาภาษาอีสานบ้านเกิดของตนได้ชัดเจน คาดว่า เป็นคนภาคอีสานหรือคนไทยที่มาหลอกคนไทยด้วยกันเอง