เถียงกันเรื่องไฟรถแยงตา ชายหัวร้อนตามยิงคู่กรณีถึงบ้าน

เถียงกันเรื่องไฟรถแยงตา ชายหัวร้อนตามยิงคู่กรณีถึงบ้าน

57904 ก.ค. 67 12:58   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ชายหัวร้อนเจอคู่กรณีบอกให้เปิดไฟต่ำเพราะไฟรถแยงตาคนที่ขี่รถสวนทาง ไม่พอใจถึงขั้นตามไปยิงที่บ้าน พ่อของคู่กรณีถูกลูกหลงเสียชีวิต ตำรวจตามจับได้แล้ว 2 เหลือผู้ร่วมก่อเหตุหลบหนีอีกราย

(4 ก.ค. 67) เมื่อคืนที่ผ่านมา(3 ก.ค.) เกิดเหตุคนร้ายบุกไปยิงคนที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง กระสุนยิงถูกนายสันติ อายุ 63 ปี เข้าบริเวณบริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตรวจสอบไม่พบชีพจรจึงทำ CPR ต่อเนื่องก่อนเร่งนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลปลวกแดงทันที ก่อนแพทย์จะยืนยันผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา


จากการสอบสวน นายเทวฤทธิ์ อายุ 43 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้าบ้าน ระหว่างทางไฟหน้าของรถยนต์กระบะมือปืนส่องตา ตนเองจึงบอกน้าๆ ไฟรถส่องตาเปิดไฟต่ำหน่อยจากนั้นจึงเกิดการโต้เถียงกัน ตนคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว จนมือปืนตามมาถึงบ้านแล้วใช้ปืนยิง 1 นัด จนกระสุนโดนพ่อที่นั่งเล่นอยู่บนแคร่หน้าบ้านล้มไป


ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง นายวีระศักดิ์ อายุ 40 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้พาชี้จุดที่ กลุ่มมือปืนซึ่งมากัน 3 คน มาถึงก็ต่อยกับลูกชายของผู้ตายตรงโต๊ะหินอ่อน ขณะนั้นผู้เสียชีวิตได้เดินเข้าไปห้าม 1 ในกลุ่มมือปืนพูดขึ้นว่าอย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาจะยิง แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น 1 นัด ผู้ตายจึงล้มลงแล้วกลุ่มมือปืนจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี



นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่ากลุ่มมือปืนเป็นคนงานอยู่ที่ร้านเพาะพันธุ์ต้นยาง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ สำหรับกลุ่มมือปืนนั้นเคยเห็นหน้าแต่ไม่รู้จักชื่อ 


ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปยัง ร้านเพาะพันธุ์ต้นยาง ตามพิกัดที่ นายวีระศักดิ์  ปรากฎร้านปิดเงียบไม่มีคนอยู่


ทีมข่าวยังลงพื้นที่ สภ.ปลวกแดง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ทางตำรวจให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นได้คุมตัวมือปืนชื่อ นายภมร อายุ 45 ปี พร้อมกับเพื่อนที่มาด้วยกันได้อีก 1 ราย คือ นายธีรพงษ์ อายุ 35 ปี ส่วน เพื่อนของมือปืน อีก 1 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจ กำลังเร่งไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด สำหรับรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับคดีนี้ทางตำรวจยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล หากจับกุมผู้ต้องหาได้ครบแล้วและสรุปคดีแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง