บ่นหลานชายไม่ไปเรียนติดเกม ลงมือทำร้ายย่าเจ็บ โร่แจ้งตำรวจรวบ
บ่นหลานชายไม่ไปเรียนติดเกม ลงมือทำร้ายย่าเจ็บ โร่แจ้งตำรวจรวบ

เปิดเทอมแล้ว เด็กชายวัย 15 ปี ติดเกมหนัก ไม่ไปโรงเรียน ย่าบ่นก่อนโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายใช้อาวุธขู่จะทำร้ายตัวเอง ขังตัวเองในห้องมืด เพื่อนบ้านเผยย่าพูดจากับหลานไม่เพราะ ชอบพูดจาแทงใจดำหลาน
(16 พ.ค. 68) วานนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองเด็กชายรายหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี ว่าเด็กติดเกมมีภาวะทางอารมณ์รุนแรง ทำร้ายผู้ปกครอง ข่มขู่จะทำร้ายตัวเอง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไม้ง่ามระงับเหตุ พบนางคัคษณากุล อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเป็นย่าของ“อิคคิว” อายุ 15ปี หลานชายที่ย่าอ้างว่าหลานได้ขังตัวเองให้ห้อง โดยมีอาวุธมีดปลายแหลมติดตัวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความวิตกกังวล
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ต้องทำงานอย่างละมุนละม่อม จากเบาไปหาหนัก เริ่มตั้งแต่เรียกตัวน้องให้ออกมาจากห้อง เกลี้ยกล่อมสารพัดนานกว่า 30 นาที ก็ไม่มีเสียงตอบ ขานรับ เกรงน้องจะทำร้ายตัวเองจริงๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจปีนบันไดข้างบ้าน เข้าทางหน้าต่าง พังประตูเข้าไปพบน้องอยู่ในห้องมืดเพียงผู้เดียว ไม่พบอาวุธ ลักษณะเด็กชายมีความหวาดกลัว ไม่พูดจาตอบโต้เจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.เพื่อให้แพทย์ได้ทำการรักษาเยียวยา
นางคัดษณากุล ย่า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวตนเองได้เข้าไปตำหนิต่อว่าพฤติกรรมติดเกมของหลาน ที่ไม่ช่วยย่าทำงานบ้านบ้าง ไม่ไปโรงเรียนทั้งที่เปิดเทอมแล้ว เสียค่าเทอมไปเกือบ 20,000 บาท อ้างโน่นอ้างนี่ไปเรื่อย จนเกิดการโต้เถียง ทะเลาะมีปากเสียงกันสุดท้ายหลานเข้าทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บีบรัดคอ จนย่าตกใจกับพฤติกรรมก้าวร้าวของหลาน เกรงว่าต่อไปจะก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งย่ากล่าวต่อด้วยความน้อยใจน้ำตาคลอว่า พ่อและแม่ของหลานไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทิ้งหลานให้ตนเองเลี้ยงมานาน ซึ่งตนเองก็รักเหมือนลูกในไส้ อบรมเลี้ยงดูเพื่อให้ได้ดี แต่มาเสียคนเพราะหลานติดเกมอย่างหนักไม่ช่วยทำงานบ้านและที่สำคัญจะไม่ไปโรงเรียนซึ่งตนเองยอมไม่ได้
ด้านเพื่อนบ้านกล่าวว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นประจำกับครอบครัวนี้ ตนเองได้ยินเสียงทะเลาะกันประจำ เนื่องจากย่าชอบบ่นหลานชาย ย่าพูดจากับหลานไม่เพราะ ชอบพูดจาแทงใจดำหลาน ตำรวจสายตรวจก็มาป้องปรามอยู่บ่อยๆ ซึ่งตนเองชาวบ้านอยากให้ตำรวจนำตัวทั้งย่าและหลาน ไปปรึกษาแพทย์เชี่ยวชาญ ดูว่าภาวะทางอารมณ์ที่รุนแรงของทั้งคู่จะมีมากขึ้นพฤติกรรมดังกล่าวอาจจะพัฒนากลายเป็นความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หากปล่อยให้กลายเป็นภาวะทางอารมณ์เรื้อรังก่อนนำพาไปสู่เหตุการณ์ร้าย