เพื่อนร่วมรุ่น โร่แจ้งเอาผิด “หมอบุญ”
เพื่อนร่วมรุ่น โร่แจ้งเอาผิด “หมอบุญ”
เพื่อนร่วมรุ่นโร่แจ้งเอาผิด “หมอบุญ” หลังชักชวนลงทุนหุ้นรพ. สูญเงินกว่า 25 ล้าน
เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 25 พ.ย. 67ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานายโพธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ทันตแพทย์ และพญ.สลวย (สงวนนามสกุล) อายุ 86 ปี คุณแม่ภรรยาและเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ อายุ 86 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ปอศ. เพื่อแจ้งความเอาผิดหมอบุญ กรณีหลอกให้ร่วมลงทุน เสียหายกว่า 25 ล้านบาท
นายโพธิรัตน์ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ภรรยาและแม่ภรรยาได้รับการชักชวนจากทางคณะทำงานของหมอบุญว่า จะมีการระดมทุนออกเงินกู้ และใช้คำว่าหุ้นกู้ แต่แท้จริงเป็นตั๋วสัญญาเงินกู้ ซึ่งขณะนั้นโรงพยาบาลธนบุรียังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยจะให้ผลตอบแทนปีละ 7% ซึ่งในปีแรกคือปี 2558 ภรรยาของตนลงทุนไป 2 ล้านบาท โดยสัญญามีระยะเวลาปีต่อปี และจะให้เงินปันผลในเดือน มิ.ย. กับ ธ.ค. ของทุกปี และในช่วงเดือนพ.ย. จะมีหนังสือมาหาเพื่อถามว่าทางเราจะไถ่ถอนเงินทุนคืนหรือจะเพิ่มทุนหรือจะต่อสัญญา โดยทุกปีที่ภรรยาของตนได้ลงทุนนั้น ก็ได้เงินปันผลตอบแทนครบถ้วนทุกปีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด กระทั่งลงทุนเพิ่มมาถึงปีนี้ ยอดรวมเงินลงทุนทั้งหมดของภรรยาอยู่ที่ 8 ล้านบาท และแม่ภรรยา 17 ล้านบาท โดยเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ก็ยังได้รับเงินปันผลตามปกติ แต่เมื่อตนและภรรยารวมถึงแม่ภรรยาทราบข่าว ก็เกิดความกังวลว่าจะไม่ได้รับเงินทุนและเบี้ยปันผลคืนในวันที่ 12 ธ.ค. ที่จะครบรอบสัญญาของปีนี้ ทางภรรยาและแม่ของภรรยาจึงได้มีการติดต่อหาทางคณะทำงานของหมอบุญ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
พญ.สลวย เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ตนไม่ค่อยได้เจอกับหมอบุญ แต่เป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันแต่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ โดยตั้งแต่ก่อนก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้ได้มีการชักชวนว่าจะมีการตั้งโรงพยาบาลโดยให้เพื่อนเข้ามาร่วมหุ้นคนละ 3 หุ้น หุ้นละ 10,000 บาท ตัวเองและสามีจึงร่วมลงทุนคนละ 30,000 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาท จากนั้นโรงพยาบาลก็ได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ มีขาดทุนบ้างในช่วงแรกก็ไม่ได้อะไร ต่อมาภายหลังทราบว่าจะมีออกเงินให้กู้จึงได้เข้าร่วมลงทุนและมีเงินปันผล ทั้งนี้ตัวเองไม่มีความรู้ในเรื่องของหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์เลย
ที่ร่วมลงทุนเพราะทราบจากคนวงในเวลาไปประชุมผู้ถือหุ้นว่าจะมีการกู้ยืมเงิน แล้วจะมีเงินปันผลจึงตัดสินใจลงเงินไป หลังปรากฏเป็นข่าวก็รู้สึกไม่ดี คิดว่าตัวเองจะสูญเงินหรือไม่ จึงพยายามติดต่อไปหาหมอบุญก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งติดต่อไปว่าเงินของตัวเองจะครบจ่ายเงินคืนในวันที่ 12 ธ.ค. นี้จะได้หรือไม่ และบอกว่าจะขอถอนก่อนกำหนดได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่าไม่สามารถถอนก่อนกำหนดได้
ครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นเงินกู้ แต่จริงๆ แล้วเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งมีการต่อสัญญาปีต่อปี โดยแต่ละปีจะมีหนังสือมาว่าตนจะต่อหรือไม่ ซึ่งก็ได้ลงเงินเพิ่มไปในทุกๆ ปี จึงมียอดเงินจำนวนมาก ที่ผ่านมามองว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนดี มีสตางค์ แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความเป็นเพื่อนกันคิดว่าก็ไม่มีอะไรที่เขาไม่ดี ไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะเกิดความเสียหายขึ้นมากมาย แม้เมื่อเร็วๆ นี้หมอบุญจะส่งข้อความผ่านทางไลน์บอกกลุ่มเพื่อนบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะโกงเพื่อน แต่ขณะนี้ก็ยังมีปัญหา
เงินที่ตนเก็บมาทั้งชีวิตหากมาหมดกับตรงนี้ก็คงแย่เหมือนกัน และเมื่อได้ฟังข่าวความหวังก็เริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ ที่มาในวันนี้เพราะต้องการเงินของตัวเองคืน จำนวนเงิน 17 ล้านบาท หากติดขัดอะไรก็ควรจะแก้ไข และหาเงินมาคืนเพื่อนๆ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นเพื่อนที่ดีกันมาโดยตลอด ส่วนตัวยังมีความหวังไม่ถึง 1% ว่าจะได้เงินคืน
ขณะที่ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับการประสานจากทางผู้เสียหายเมื่อสามวันที่แล้วในวันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนบก.ปอศ. เพื่อดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับตัวหมอบุญ เนื่องจากผู้เสียหายอยากได้รับเงินที่ร่วมลงทุนทั้งหมดคืน