ฝากขัง “บอสพอล” ทนายเผยยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้
ฝากขัง “บอสพอล” ทนายเผยยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้
คุมตัว “บอสพอล” ฝากขังเป็นคนสุดท้ายเช้านี้ ทนายเผยยังไม่ยื่นขอประกันตัว หลังวานนี้ 3 บอสดาราขอวางประกัน 2 ล้าน แต่ชวดหมด
(18 ต.ค. 67) ความคืบหน้ากรณีนำตัวผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ฝากขังต่อศาลอาญา หลังจากช่วงบ่ายวานนี้ได้นำตัว 17 บอส แม่ข่ายตัวเอ้และ 3 บอสดารา เข้าฝากขังก่อนแล้ว เหลือเพียง บอสพอล หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่แจ้งความประสงค์ขอให้ปากคำเพิ่มเติม
เช้านี้ที่กองบังคับการปราบปรามกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า การสอบปากคำนายวรัตน์พล มีประเด็นที่จะต้องสอบปากคำเยอะ โดยเมื่อคืนสอบปากคำเสร็จประมาณ 20.00 น. เมื่อสอบเสร็จเรียบร้อยก็ควบคุมตัวไว้ก่อนจะนำไปฝากขังในช่วงเช้า ซึ่งหลังจากนี้ผู้ต้องหาก็จะอยู่ในอำนาจศาล และสำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ประชาชนยังเกิดข้อสงสัย ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน โดยจะต้องทำงานอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด นอกจากนี้ยังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสอบสวนจะทำตามใจหรือรีบร้อนเกินไปไม่ได้เพราะทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน
ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัวเหมือนผู้ต้องหารายอื่น ส่วนประเด็นอื่นๆก็ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง
ส่วนคำให้การเพิ่มเติมของนายวรัตน์พลมีประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทางตำรวจไม่ได้หวังพึ่งคำให้การจากผู้ต้องหาอย่างเดียว แต่จะต้องพึ่งพยานเอกสารและคำให้การของผู้เสียหายประกอบสำนวน ซึ่งหลังจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติม เพราะยังมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาเรื่อยๆ
ทั้งนี้ฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ทุกพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่ตั้งศูนย์รับแจ้งความขึ้นมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยที่ บก.ปคบ. ได้พนักงานสอบสวนร่วมสอบปากคำกว่า 100 นาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ส่วนการขยายผลไปถึงนักการเมืองหรือข้าราชการสีกากีอื่นที่มีความเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนไม่ขอลงรายละเอียด อยู่ในขั้นตอนดำเนินการทั้งหมดที่เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ
ต่อมา พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. คุมตัวนายวรัตน์พลไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขออำนาจฝากขังผัดแรก ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถตู้นายวรัตน์พลปฏิเสธให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน โดยมีสีหน้าท่าทีเรียบเฉย เบื้องต้น ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชน และ ความผิดตาม พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ ซึ่งตำรวจคัดค้านการประกันในชั้น พนักงานสอบสวน
ด้านนายวิทูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล เปิดเผยว่า ในวันนี้ยังไม่ยื่นขอประกันตัวเนื่องจากเมื่อวานนี้เห็นคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัว 3 ผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งศาลให้เหตุผลว่า คดีดังกล่าวกลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะกระทำกันเป็นขบวนการ หากอนุญาตให้ประกันตัวแล้วเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
สำหรับ สาเหตุที่ต้องมีการควบคุมตัวนายพอล ไปฝากขังในวันนี้เนื่องจากการสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด เปิดทำการถูกต้อง และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดบริสุทธิ์ โดยเมื่อวานที่ผ่านมาพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีปรากฏคลิปเสียงในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งนายวรรัตน์พล ให้ข้อมูลว่าคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวนั้นเป็นเสียงของตัวเองจริงแต่ ยืนยันว่าไม่เคยจ่ายสินบนให้หน่วยงานใด ตามที่มีการถูกกล่าวอ้าง ซึ่งในส่วนที่มี การพูดถึงเทวดานั้นยืนยันว่าเทวดาที่หมายถึงคือเทวดาจริงๆ ไม่ใช่เทวดาบนโลกมนุษย์
ส่วนกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยข้อมูลว่า เคยมีคนใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงของ ดิไอคอนกรุ๊ป แปลงทรัพย์สินที่มีเป็น สกุลเงินดิจิทัลเพื่อจ่ายสินบนนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากผลประกอบการของบริษัท มี 10,000 ล้านบาท หากจะนำไปจ่ายเป็นเงินสินบนทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลที่นายเอกภพอ้างอิงถึงนั้น ไม่ใช่ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไอคอนกรุ๊ปแต่อย่างใด โดยตัวเองขอฝากถึงนายเอกภพว่าหากมีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจถูกแจ้งข้อหา ให้การเท็จได้
นายวิฑูรย์ ยังระบุอีกว่า หากจะยื่นขอประกันตัวนายวรัตน์พล หลังจากนี้ อาจจะต้องมีการเพิ่มวงเงินจาก 2 ล้านบาท อย่างแน่นอนแต่ส่วนนี้ขอไม่ตอบรายละเอียดว่าจะเป็นหลักทรัพย์เท่าไหร่