“ราชทัณฑ์” โต้ “จดหมายอุยกูร์” ลายมือไม่เหมือน น่าจะถูกทำขึ้น
“ราชทัณฑ์” โต้ “จดหมายอุยกูร์” ลายมือไม่เหมือน น่าจะถูกทำขึ้น

“ราชทัณฑ์” ร่อนหนังสือชี้แจงกรณีจดหมายจากผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ร้องไม่อยากกลับจีน มีตราประทับเรือนจำคลองเปรม เผยเทียบลายมือกับผู้ต้องขังแล้วไม่เหมือน ไม่มีการส่งจดหมายออก น่าจะเป็นของที่ทำขึ้นอย่างไม่ถูกต้อง
(3 มี.ค. 68) จากกรณีที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ได้เปิดเผยเอกสารเป็นจดหมาย 3 ฉบับ จากผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์และญาติ ที่เขียนขึ้นก่อนมีเหตุการณ์รัฐบาลไทยผลักดันผู้ลี้ภัยที่ถูกกักขังที่ ตม.สวนพลู ส่งให้ทางการจีน โดย นายกัณวีร์ระบุว่าจดหมายเหล่านี้เป็นหลักฐานชี้ว่าชาวอุยกูร์ไม่สมัครใจที่จะเดินทางกลับจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: “กัณวีร์” เปิดจดหมาย 3 ฉบับผู้ลี้ภัยอุยกูร์ ไม่สมัครใจกลับ กลัวติดคุก-ถูกฆ่า
ล่าสุดวานนี้(2 มี.ค.) กรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “ตามที่เพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “วันนี้พรรคสีส้มโกหกอะไร” ได้เผยแพร่ข้อความเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวถึงจดหมายของผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ ซึ่งมีตราประทับจากเรือนจำกลางคลองเปรม ส่งถึงนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น
กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว ขอเรียนว่า ผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ให้การยืนยันว่า ไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อ และลายมือที่ปรากฏมิใช่ลายมือของพวกตน โดยในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยส่งจดหมายออกภายนอกเรือนจำแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นเรือนจำฯ ได้เปรียบเทียบลายมือแล้วพบว่า แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เรือนจำกลางคลองเปรมได้ตรวจสอบข้อมูลการรับ-ส่งจดหมาย ไม่ปรากฏว่ามีจดหมายฉบับดังกล่าว อีกทั้งตราประทับที่ปรากฏบนจดหมายฉบับนั้น ก็มิใช่ตราประทับของเรือนจำกลางคลองเปรมแต่อย่างใด โดยตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ก่อนส่งจดหมายถึงภายนอกเรือนจำฯ ต้องตรวจสอบเนื้อหาในจดหมายว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีจดหมายฉบับดังกล่าว และโดยเฉพาะจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ต้องขังดังกล่าวไม่มีญาติหรือทนายความมาเยี่ยมเยียน
กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่าจดหมายฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเรือนจำฯ ได้ตรวจสอบและถือปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางที่กรมราชทัณฑ์กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด”
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
