เลขาธิการ กกต. เผยคืบหน้า"คดีฮั้ว สว."

เลขาธิการ กกต. เผยคืบหน้า"คดีฮั้ว สว."

102209 มิ.ย. 68 23:36   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เลขาธิการ กกต. เผยคืบหน้า"คดีฮั้ว สว." ย้ำ กกต.ทำตามระเบียบสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด

(9มิ.ย.68) ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า เรื่องสว.น่าจะเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างยิ่ง ทั้งนี้ขอชี้แจงว่าการเลือก สว. นั้นมีทั้งงานในส่วนที่ กกต.ทำหน้าที่ในงานตรวจสอบกรณีมีข้อร้องเรียนว่าการเลือก สว. เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ อีกด้านหนึ่งทาง กกต.ก็ถูกตรวจสอบเช่นกันซึ่งปรากฏตามข่าว


ทั้งนี้ในส่วนของการตรวจสอบเรื่องความไม่สุจริตเที่ยงธรรมนั้นจริง ๆ กกต.ได้ดำเนินการมาตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด ตั้งแต่มีการประกาศผลการเลือก สว. เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 ซึ่งตอนนั้น กกต.ได้แถลงว่า กกต.ได้ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และตำรวจ โดยเมื่อผ่านมาครึ่งปี ก็ได้ปรับมาทำเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะวิธีการที่ดำเนินการในช่วงแรกเป็นการดำเนินคดีแยกเป็นรายบุคคล ซึ่งทำให้มองไม่เห็นความสัมพันธ์กัน และเมื่อมีการปรับรูปแบบมาทำร่วมกับดีเอสไอ โดยตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้น มาก็จะทำให้เห็นการทำงานภาพรวม เห็นความเชื่อมโยง


“ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนคณะพิเศษชุดที่ 26 ซึ่งได้ทำงานร่วมกันมาราว ๆ 90 วัน แล้ว ทำทุกวัน ทั้งกลางวัน กลางคืน นั่นหมายความว่าเราจะเร่งการทำงานแต่ก็ต้องให้ ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้โอกาสในการมาชี้แจง ด้วยความที่การเลือกสว.มีความสลับซับซ้อน มีหลายชั้น ทั้งชั้นอำเภอ จังหวัด และประเทศ รวมถึงมีรูปแบบ แต่เลือกที่สลับซับซ้อนเหมือนกัน แต่ขอยืนยันว่าคณะกรรมการสอบสวนยังทำงานทุกวันอย่างเอาใจใส่” เลขาธิการ กกต. กล่าว


เมื่อถามถึงกรอบที่ตั้งเอาไว้ว่าจะแล้วเสร็จ เนื่องจากขณะนี้ใกล้ครบ 1 ปีแล้ว นายแสวง กล่าวว่า ในกฎหมายหรือพระราชบัญญัติไม่ได้กำหนดเรื่องเวลาเอาไว้ แต่สำนักงานกำหนดเวลา ให้ตัวเองดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็เหลือประมาณ 1 เดือน ถือว่ายังมีเวลาที่จะดำเนินการ 


"ตนเข้าใจว่าคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนก็เข้าใจในข้อนี้ดี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากเวลาเกินไปก็ไม่เสียหายอะไร เพราะในกฎหมายไม่ได้เขียนเงื่อนเวลาเอาไว้ ดังนั้นทางคณะกรรมการสืบสวนฯ สามารถขยายเวลาโดยให้เหตุผลและความจำเป็นว่าเหตุใดจึงยังไม่เสร็จภายในเวลาที่สำนักงานกำหนดไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สิ้นกระแสความครบถ้วนสมบูรณ์และให้โอกาสทุกคนได้มาชี้แจง" เลขาธิการ กกต. กล่าว


เมื่อถามย้ำว่าน่าจะมีความเป็นรูปธรรมหรือไม่ เพราะหลายคนมีความคาดหวังว่าจะเห็นการสอยหรือลงโทษผู้กระทำผิด นายแสวง กล่าวว่า นับจากปีที่ประกาศเรื่อง สว. ยังมีขั้นตอนจากคณะกรรมการสอบสวนอีก 3 ชั้น คือ ชั้นสำนักงาน มาที่ชั้นอนุกรรมการวินิจฉัย และมาต่อที่กกต. ซึ่งหลังการประกาศผลการตัดสินแล้วยังต้องส่งต่อไปที่ศาล อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงาน กกต.ภายใต้กำกับของคณะกรรมการ กกต.ก็ได้เร่งรัดเรื่องนี้อยู่ตลอด


เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกต กกต.ทำงานล่าช้า และพูดถึงความเชื่อมโยงของตัวเลขาธิการ กกต.กับผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในขบวนการฮั้วเลือกสว. นายแสวง กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเรามีทั้งงานตรวจสอบและตัวเราเองก็ถูกตรวจสอบด้วย ในส่วนที่เราถูกตรวจสอบคือตัวเลขาธิการ กกต. ในฐานะผู้อำนวยการเลือก สว.ระดับประเทศ ถ้าเห็นว่าการทำหน้าที่การปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.การเลือกระดับประเทศไม่เป็นไปตามกฎหมาย ผู้ร้องก็มีสิทธิไปร้องเรียนอยู่ 


นายแสวง กล่าวต่อไปว่า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการไปร้องเรียนไว้หลายหน่วยงาน บางหน่วยงานก็จบแล้ว เช่น กรณีที่ร้องต่อศาลก็จบแล้ว ซึ่งตนขอเรียกว่าขณะนี้อยู่ในระบบหรือกระบวนการยุติธรรม


“คนที่ตรวจสอบเขาก็มีสิทธิ์ที่จะร้องให้ตรวจสอบ ส่วนเราก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจงต่อหน่วย ไม่ได้มีการชี้แจงผ่านสื่อเพราะจะกลายเป็นเรื่องของการโต้เถียงกันไปกันมา และเป็นการไม่เคารพต่อองค์กรที่ทำหน้าที่ในการตัดสิน ในส่วนของตัวผมเองก็ได้ไปชี้แจงและพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบจากทุกที่ ทุกแห่ง” นายแสวง กล่าว


เมื่อถามว่าขณะนี้มีกลุ่ม สว.สำรองเรียกร้องให้เลขาธิการ กกต. หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนในระหว่างที่มีการตรวจสอบนี้ นายแสวง กล่าวว่า อย่างที่บอกเขาอาจจะเห็นว่าเลขาธิการ กกต.มีส่วนได้เสียอะไรหรือไม่ แต่ย้ำอีกครั้งว่าการร้องเรียน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่บางครั้งในกระบวนการแบบนี้ เหมือนการร้องขอหรือการกล่าวหา บางครั้งก็ต้องมีกระบวนการ ซึ่งการที่ท่านไปร้องต่อ 2 - 3 หน่วยงาน ซึ่งบางแห่งที่ไปร้องเรียนไว้ก็จบไปแล้ว


ทั้งนี้นายแสวง ยังกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ถูกกดดันลาออก และมีมือที่มองไม่เห็น หรือมีนายพล ส. คอยสั่งการทำงานของ กกต.และองค์กรอิสระ โดยระบุว่า ไม่มีใครมาบีบกกต. แต่ที่อื่นตนไม่รู้


เมื่อถามว่ากรณีที่ 92 สว.ร้องขอความเป็นธรรมต่อ กกต.เกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการไต่สวน ชุดที่ 26 นายแสวง กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งโดยคำสั่ง กกต. ซึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่จนมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็น กกต.มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไร


เมื่อถามว่าเลขาธิการ กกต.จะต้องเข้าไปชี้แจง ในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว.หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเรียกมา รวมถึงคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 หรือกรณีที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งสมุทรปราการที่อ้างว่าวันเลือกระดับประเทศ ได้แจ้งเบาะแสโพยฮั้ว สว. เข้าสถานที่เลือก แต่ตนไม่ได้ดำเนินการอะไร 


"อยากจะชี้แจงกับทุกที่มีอำนาจ แต่ไม่อยากชี้แจงผ่านสื่อ เพราะจะเป็นการโต้กันไปโต้กันมา หรือแม้แต่เรื่องที่อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งสมุทรปราการได้อ้าง กกต.ก็ได้วินิจฉัยจบไปแล้ว" นายแสวง กล่าว


นายแสวง ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 จะมีการสรุปสำนวนและจะต้องเสนอต่อที่ประชุม กกต. พิจารณาในวันที่ 16 มิ.ย. ว่า ขณะที่อยู่ในชั้นคณะกรรมการไต่สวน ซึ่งการดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบสืบสวนที่มีขั้นตอนเพื่อเป็นหลักประกันทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าเรื่องอะไร 


"ฉะนั้นจะข้ามขั้นตอนไม่ได้ ดังนั้นถ้าระดับคณะกรรมการสอบสวนเสร็จแล้ว ก็จะต้องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นสำนักงาน และอนุวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและข้อโต้แย้งก่อนถึงไปสู่ที่ประชุม กกต." นายแสวง กล่าว


เมื่อถามว่า กกต.มีนโยบายที่จะพิจารณาคดีนี้แบบแยกเป็นลอต หรือรวมหมดของทุกคน นายแสวง กล่าวว่า สำนักงานยังไม่ทราบ เพราะยังเดินตามขั้นต่อระเบียบสืบสวนอยู่ ซึ่งตอนนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการสอบว่าจะเรียกใครเข้ามาชี้แจงทั้งเลขาธิการ กกต.หรือ กกต. ก็ยังไม่ทราบ 


"มันเป็นความอิสระ แต่จะถูกตรวจสอบเป็นชั้น ๆ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ชั้น ไม่ใช่ว่าใครอยากจะทำอะไรก็ทำ และ กกต.จะทราบการทำงานของคณะกรรมการไต่สวนก็ต่อเมื่อคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ขอขยายระยะเวลาในการสอบ" นายแสวง กล่าว


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat