“ต้นอ้อ-พม.” ช่วยเด็ก 4 ขวบ ถูกแม่ทิ้งอยู่ในห้องลำพัง
“ต้นอ้อ-พม.” ช่วยเด็ก 4 ขวบ ถูกแม่ทิ้งอยู่ในห้องลำพัง

“ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” ประสาน จนท.พัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ถูกแม่ทิ้งอยู่คนเดียวในห้องพักทุกคืน เพื่อนบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องไห้บ่อยครั้ง เปิดห้องเข้าไปข้างในสุดรก!
(3 พ.ค. 68) มูลนิธิเป็นหนึ่งลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซ.รามอินทรา 127 เขตมีนบุรี กทม. พร้อมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพ หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ว่ามีเด็กหญิงวัย 4-5 ขวบ ถูกแม่ทิ้งไว้ที่ห้องพักคนเดียวในช่วงกลางคืนทุกคืน
โดยเพื่อนบ้านได้ยินเสียเด็กร้องไห้ทุกคืน บางวันก็ร้องตั้งแต่ 5-6 โมงเย็น บางวันก็ร้อง 3-4 ทุ่ม ล่าสุดวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อนบ้านทนไม่ไหว ก็ได้งัดประตูเข้าไปช่วย เปิดเข้าไปในห้องก็ไม่มีไฟส่องสว่าง ห้องเต็มไปด้วย ขยะสิ่งของ ที่ดูรกและสกปรก
ป้าร้านขายของชำในตึกเคยรับเด็กมาช่วยดูแลในบางวัน แต่แม่เด็กก็จะพาเด็กกลับไปที่ห้องเหมือนเดิม เมื่อสอบถามไปยังเพื่อนบ้านว่าแม่ของเด็กทำงานอะไรก็ไม่มีใครทราบ รู้เพียงแม่มักจะออกไปตอนกลางคืน กลางวันจะอยู่ห้อง แต่น้องจะร้องไห้อย่างนี้ทุกวัน
ตั้งแต่หลังจากที่เพื่อนบ้านงัดประตูเข้าไปช่วย น้องก็ยังร้องอยู่แต่เสียงเบาลง เพราะว่าแม่น่าจะเอาน้องไว้ในห้องนอน ซึ่งก่อนหน้านี้น้องจะสามารถเดินมาที่หลังบ้านได้หรือห้องครัวได้แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้วได้ยินแต่เสียงร้อง
เมื่อต้นอ้อ เป็นหนึ่ง และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงห้องที่เพื่อนบ้านแจ้ง ได้เคาะประตูเรียกแล้วมี น.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 37 ปี ออกมาเปิดประตูให้ โดยแนะนำตัวว่าตนเป็นแม่ของเด็ก
เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งเรื่องที่ได้รับร้องเรียนมาว่ามีการทอดทิ้งเด็กให้อยู่ลำพัง เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็ก น.ส.เอได้ปฏิเสธ บอกว่าตนดูแลลูกอย่างดี มีแค่บางวัน หากตนเองไม่อยู่ก็จะฝากพี่เลี้ยงไว้ โดยกลางวันจะทำงาน และกลางคืนก็จะดูแลลูก ถ้าวันไหนไม่อยู่หลายวันก็จะฝากคนที่รู้จักที่เขตหนองจอกดูแลให้ พร้อมทั้งบอกว่าตนเองเป็นโรคประจำตัวจะต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลเป็นประจำ และไม่สะดวกนำลูกไปด้วย จึงต้องให้ลูกอยู่ในห้องตามลำพังเป็นบางเวลาเท่านั้น โดยปกติแล้วลูกจะเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัดแต่ช่วงนี้ปิดเทอมจึงนำลูกมาอยู่ด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบตามร่างกายของน้อง ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่ทางเพื่อนบ้านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเด็กที่ต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียวแบบนี้ทุกวัน จึงแจ้งมายังมูลนิธิเป็นหนึ่ง เพื่อให้ดำเนินการให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเด็กคนนี้หรือเข้ามาพูดคุยกับทางผู้ปกครองเพื่อหาทางแก้ไขในการเลี้ยงดูบุตรอย่างถูกต้อง