โคราชลักลอบเผาต่อเนื่อง ทำค่า PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐานถึง 59.5 มคก./ลบ.ม.
โคราชลักลอบเผาต่อเนื่อง ทำค่า PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐานถึง 59.5 มคก./ลบ.ม.

โคราชลักลอบเผาต่อเนื่อง ทำค่า PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน ถึง 59.5 มคก./ลบ.ม. ระดมทุกภาคส่วนเร่งแก้ปัญหา เผยแนวโน้มค่าฝุ่นยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ต้นเหตุจากการเผาและอากาศที่เย็น
วันที่ 23 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเมืองยางบ้านเอ็ง ได้โพสต์ภาพและคลิปไฟไหม้ตอซังข้าว บริเวณทุ่งนา ห่างจากโรงพยาบาลเมืองยาง ตำบลเมืองยาง อำเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 300 เมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีกลุ่มควันไฟที่เกิดจากการลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวของชาวนาในพื้นที่ ได้ลอยขึ้นไปปกคลุมท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้าง สร้างฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง ถึงแม้ว่าทางอำเภอเมืองยาง จะมีการประกาศแจ้งเตือนเกษตรกร รณรงค์ให้ชาวนาในพื้นที่หยุดการเผาตอซัง เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมกับมีมาตรการขั้นเด็ดขาด เอาผิดกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวแล้วก็ตาม แต่ยังพบว่า มีการลักลอบเผาตอซังข้าวอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนที่อาจประสบอุบัติ จากควันไฟที่บดบังทัศนวิสัยได้
ขณะเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา ก็ได้มีการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , สำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 , อุตสาหกรรมจังหวัด , สำนักงานเกษตรจังหวัด , ผู้แทนจากสมาคมชาวไร่อ้อย จ.นครราชสีมา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อวางแผนการควบคุม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่แบบบูรณาการ
โดยนางสาวกุลชา ธนะขว้าง ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ได้แก่ นครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในการดูแลของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยจากการรายงานวันนี้ (23 ม.ค.68) พบว่า จ.นครราชสีมา มีค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงถึง 59.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มากเป็นอันดับที่ 1 รองลงมา จ.สุรินทร์ 54.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , จ.ชัยภูมิ 49.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ จ.บุรีรัมย์ 48.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ
ข่าวที่คล้ายกัน :
ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ สภาพอากาศที่เย็น ทำให้อากาศไม่ฟุ้งกระจายสูงขึ้นชั้นบรรยากาศด้านบน และมีการเผาเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ทั้งนี้สภาพอากาศเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุม แต่ในส่วนของการลักลอบเผาพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเกิดจากฝีมือมนุษย์ ยังคงมีเกิดขึ้นจำนวนมาก จากข้อมูลรายงานจุดฮอตสปอต หรือจุดความร้อน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 ที่ผ่านมา จะพบว่า จ.นครราชสีมา มีมากที่สุดถึง 15 จุด โดยอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ 1 จุด อยู่ในเขตป่าสงวน 4 จุด อยู่ในพื้นที่การเกษตร 6 จุด และพื้นที่อื่นๆ 4 จุด
ส่วน จ.ชัยภูมิ พบจุดความร้อน 12 จุด , จ.สุรินทร์ 11 จุด และ จ.ชัยภูมิ 9 จุด ดังนั้น ในระยะ 3 สัปดาห์นี้ จึงทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงขึ้นเกินมาตรฐานในทุกพื้นที่ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในปีนี้มีแนวโน้มการเกิดค่าฝุ่น PM 2.5 สูงกว่าปีที่แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถกระจายไปตามทิศทางลมสู่หลายจังหวัดใกล้เคียง ดังนั้น ระยะนี้จึงต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยกันรณรงค์ลดการเผา ไม่ว่าจะเป็นเผาตอซังข้าว เผาไร้อ้อย หรือเผาขยะ เนื่องจาก สภาพอากาศที่แห้งอาจจะเกิดการลุกลามเป็นบริเวณกว้างได้
สำหรับประชาชน ก็ขอแนะนำให้งดการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นก็ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันฝุ่นไว้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ และเด็กเล็ก รวมทั้งชุมชนเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง ให้ช่วยกันลดใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้บริการรถขนส่งสาธารณะมากขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยลดอัตราการเกิดควันจากรถยนต์ ที่เป็นต้นเหตุของฝุ่น PM 2.5 ได้อีกทางหนึ่งด้วย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 6 เตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน(มีผลกระทบบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2568)
