วิสามัญฯ แก๊งปล้น จยย. ดับ 1 ราย หลังต่อสู้-ขัดขืน การจับกุมเจ้าหน้าที่ ด้านภรรยาอุ้มท้องร่ำไห้ บอก ตร.ทำเกินกว่าเหตุ

(11 ก.พ. 68) จากกรณีคนร้ายลักทรัพย์ถูกวิสามัญเสียชีวิต ที่เกิดเหตุภายในซอยวัดศิริพงษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.คันนายาว ได้วิสามัญคนร้ายลักรถ จยย.แล้วหลบหนี ซึ่งการจับกุมได้มีการใช้อาวุธปืนขัดขืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นคนขับหลบหนีการจับกุม แต่คนซ้อนถูกวิสามัญเสียชีวิต

สืบเนื่องจาก นายแสง อายุ 20 ปี เจ้าของรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ได้จอดรถ จยย. คันดังกล่าวไว้ที่บริเวณใต้ตึกที่เกิดเหตุ ถนนนวลจันทร์ 52 แขวงนวลจันทร์ จากนั้นได้ขึ้นไปที่ห้องพัก ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันนี้ (11 ก.พ. 68) ผู้เสียหายได้กลับมาที่รถ จยย. คันดังกล่าว พบว่ารถหายไป จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดักซุ่มจับคนร้ายที่ก่อเหตุลักรถ จยย. จากนั้นคนร้ายเอารถ จยย. มาจอดทิ้งไว้ที่ใต้สะพานดังกล่าว ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขี่รถ จยย. มา 2คน ซึ่งมาเอารถจยย.คันที่ลักมาจอดทิ้งไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัว ทำให้เกิดการปะทะกัน หลังจากนั้นคนร้ายขีรถ จยย.ลบหนีออกไป ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งคาดว่าเป็นเสียงปืนของคนร้ายผู้ขับขี่รถที่ได้ยิงเปิดทาง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงสวนคนร้ายไป 1 นัด ทำให้กระสุนเข้าที่นายศุภัช อายุ 28 ปี ที่นั่งซ้อนมาด้วยเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุทันที จากนั้นคนขี่ได้ยิงเปิดทางขี่หลบหนี ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

ต่อมานายแสง สัญชาติเมียนมา อายุ 20 ปี เจ้าของรถ จยย. ที่ถูกกลุ่มผู้เสียชีวิตขโมยไป ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ โดยนายแสง เล่าว่า รถคันดังกล่าวเพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 โดยผ่อนเดือนละประมาณ 2,000 บาท เป็นรถของพี่สาวที่จอดไว้ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยนวลจันทร์ 52 จนกระทั่งเช้าวันเกิดเหตุ ตนและพี่สาวตื่นขึ้นมาพบว่ารถหายไป จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขโมยรถไป ก่อนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สน.โคกคราม เวลาประมาณ 10.00 น.

นายแสง ยอมรับว่า ในตอนแรกกังวลว่าอาจไม่ได้รถคืน แต่หลังจากนั้นได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าพบรถแล้ว ทำให้รู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม ตนไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะลุกลามถึงขั้นมีการยิงปะทะกับตำรวจจนทำให้กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต

ทั้งนี้ นายแสง ระบุว่า ตนอโหสิกรรมให้กับกลุ่มผู้เสียชีวิต และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามรถกลับคืนมาให้ตนและพี่สาวได้สำเร็จ

ภรรยา และแม่ยาย ของนายศุภชัย อายุ 26 ปี ผู้เสียชีวิต เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนมาทราบเรื่องจากคนรู้จัก จึงรีบโทรศัพท์ไปหาผู้เสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนรับสาย พร้อมกับแจ้งเรื่อง ทันทีที่ได้ยินตกใจและรีบมาที่เกิดเหตุ พบเห็นร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ที่บริเวณใต้ทางพิเศษฉลองรัช 

สำหรับผู้เสียชีวิตตนเห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียชีวิตไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน หนี้สิน หรือติดการพนันออนไลน์ ไม่มีพฤติกรรมลักขโมยแต่อย่างใด และคนในครอบครัวก็ไม่เคยเห็นผู้เสียชีวิตมีปืน เพราะผู้เสียชีวิตกับภรรยาเปิดร้านขายของใช้เบ็ดเตล็ดแถวบางเขน เป็นคนที่ขยันทำมาหากิน รักครอบครัว ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวต้องเสียเสาหลัก และในอีก 1-2 วันข้างหน้า แพทย์ได้นัดภรรยาของผู้เสียชีวิตไปทำการตรวจครรภ์เพื่อนัดวันคลอดลูกคนแรก

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ทำไมไม่จับกุมไปดำเนินคดี ทำไมถึงใช้ยุทธวิธีในการวิสามัญเช่นนี้