ผลนิติฯยันหลักฐานแผล "แตงโม" ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ
ผลนิติฯยันหลักฐานแผล "แตงโม" ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ
"อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย"นำหลักฐานเด็ดแจง DSI 'แตงโม' ไม่ได้อยู่บนเรือ ตั้งแต่ช่วงเวลา 22:32 น. ยืนยันบาดแผลไม่ใช่เกิดจากใบพัดเรือ 100% เตรียมพร้อมจำลองเหตุการณ์ 16 มกราคมนี้ - ด้าน DSI ยังไม่รื้อคดี รอตรวจสอบข้อเท็จจริง
14 ม.ค.68 เมื่อเวลา 9.00 น. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ศูนย์ราชการอาคาร A ถนนแจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมพยานพ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และนายธนวัฒน์ (ผู้เชี่ยวชาญในการขับเรือ) ได้นำหลักฐานเอกสาร ผลการชันสูตรศพดาราสาวแตงโมนิดา และข้อมูล ในการเตรียมความพร้อมที่จะจำลอง เหตุการณ์บนเรือ ตามวันที่เกิดเหตุ 24 กุมภาพันธ์ 2565 มาชี้แจง ต่อ DSI ตามคำขอของ DSI เอง ที่จะต้องมีการร่วมสังเกตการณ์ด้วย
โดยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวกับสื่อก่อนเข้าให้ข้อมูลกับ DSI ว่า มีหลักฐานสำคัญ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เห็นว่า แตงโม ไม่ได้อยู่บนเรือ ตั้งแต่เวลา 22:32 น. ซึ่งในตอนนั้นเรื่องนี้ตนพยายาม นำเสนอข้อมูลกับสื่อไปตั้งแต่ช่วงที่เกิดเหตุแรกๆแล้ว และเคยเปิดเผยหลักฐานชิ้นนี้แล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อ รวมถึงบาดแผลของแตงโม ผลนิติวิทยาศาสตร์เผยออกมาแล้วว่า ไม่ใช่ เกิดจากใบพัดเรือ อย่างแน่นอน ยืนยันว่ามีหลักฐานชัด และจริงๆแล้วตนมีหลักฐานมาตั้งแต่ช่วงแรกๆที่แตงโมเสียชีวิตแล้วแต่ตอนนั้นไม่มีใคร เชื่อและให้ความสำคัญ เพราะทุกคน มุ่งแต่ไปเชื่อ ทนายตั้ม แต่ตนได้ทำการยื่นเรื่องนี้ ไปยังศาลปกครองและการปกครองและรับเริ่มพิจารณาคดี
ส่วนในการจำลองเหตุการณ์วันที่ 16 มกราคมนี้ จะตั้งจุดกองบัญชาการไว้ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และจะทำการจำลองเหตุการณ์ บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม ในการจำลองเหตุการณ์ก็จะมีการถ่ายภาพทั้งใต้น้ำ ทั้งบนเรือ ภาพมุมสูง และจะมีทีมกู้ภัย ทางน้ำคอยดูแล อำนวยความสะดวกอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยในการจำลองเหตุการณ์
ด้าน พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่เคยเห็นด้วยกับ ความเห็นที่บอกว่า บาดแผลที่บริเวณขาของคุณแตงโม เกิดจากฟินหรือใบพัดเรือ และจากการชันสูตร ร่างของแตงโมตั้งแต่ต้น ยืนยันชัดเจนว่าแผลใหญ่ ที่ขา ของ แตงโม ไม่ได้เกิดจาก ใบพัดเรือ 100% แต่จะเกิดจากอะไร ให้ลองดูภาพบาดแผล ขณะที่พูดก็ได้มีการส่งแฟ้มเอกสารให้กับนักข่าวดูและบอกว่าอย่าเผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกไป ซึ่งภาพที่เห็นเป็นบาดแผลฉกรรจ์ที่ พี่ขา ขนาดใหญ่ รอยแผลค่อนข้างยาว คุณหมอยังบอกอีกว่าอีกว่า ลองคิดดูว่า ถ้าช่วงเวลา 22:32 น. แตงโมไม่ได้อยู่บนเรือ แล้วจะอยู่ที่ไหนและเป็นอย่างไร ให้เราลองกลับไปคิดดู
ด้าน DSI เผยยังไม่รื้อคดีแตงโม ขอตรวจสอบข้อมูล แต่ยอมรับข้อมูลจากแพทย์ล่าสุดเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ด้านพันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก็ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากได้ประชุมหารือกับภาคเอกชน นาน 5 ชั่วโมง ในประเด็น จำลองเหตุการณ์ นักแสดงสาวแตงโมนิดาพลัดตกจากเรือเสียชีวิต
โดยพันตำรวจตรี ณฐพล กล่าวว่าคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบปากคำพยานรวม 4 คน จากคำให้การ ของหมอธวัชชัยถือว่าเป็นประโยชน์ต่อคดี โดยหมอธวัชชัยเดิมเป็นพยานโจทก์ร่วมของคดีที่ศาลจังหวัดนนทบุรี แต่ต่อมาได้มีการตัดหมอธวัชชัยออก ขณะที่นายอัจฉริยะก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฟ้องฐานหมิ่น จนกระทั่งหมอธวัชชัยมาเป็นพยานให้ และคดีดังกล่าวก็ถูกยกฟ้อง ขณะเดียวกันก็สังเกตว่าข้อมูลจากคุณหมอธวัชชัย เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่กลับไม่ได้นำเข้าสู่สำนวนคดีหลัก
ส่วนพยานปากที่ 2 เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือ ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่ดาราสาวแตงโม พลัดตกจากเรือนั่นเอง โดยพยานให้ข้อมูลว่ามีความคุ้นชินกับเรือลักษณะดังกล่าวมาว่า 20 ปี และ ถ้าขับด้วยความเร็ว 8 น็อต แล้วเกิด อุบัติเหตุมีคนตกเรือ ใบพัดเรือจะไม่สามารถดูดคนที่ตกเรือได้เลย นอกเสียจากว่าเรือจะถอยหลัง แต่หากมีการดูดลักษณะของบาดแผลก็เป็นรอยกระจุย
ต่อมาได้มีการสอบพยานเรื่อง GPS tracking และได้ให้ข้อมูล เรือว่าแล่นจากไหนไปถึงไหน และมีการเปรียบเทียบข้อมูลจาก ตำรวจ และคนบนเรือ จากการตรวจสอบพบว่ามีข้อมูล ที่ไม่ตรง กันหลายจุด และพบว่ามีข้อมูล จากการแกะรอยของ GPS จำนวนมากทำให้ต้องมีการตรวจสอบข้อมูล เพิ่มเติมจึงต้องมีการเรียก พยานรายนี้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกต่อไป
สำหรับประเด็นเรื่องการจำลองเหตุการณ์ คดีดาราสาว พลัดตกเรือจมน้ำเสียชีวิตนั้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะไปร่วมสังเกตการณ์ ส่วนประเด็นที่มีการสอบถามว่าจะมีการ ให้ DSI รื้อคดีดังกล่าว หรือไม่นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบอาจจะต้องใช้เวลา และดูเรื่องของพยานหลักฐานใหม่ที่เข้ามา พิสูจน์ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน