ส้มตำสู้ชีวิตของสองสามีภรรยา ผักสดจากสวน-กุ้งร้ารสกลมกล่อม

วันที่ 28 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สตูล มีร้านส้มตำของสองสามีภรรยาสู้ชีวิต มีจุดเด่น รสชาติดีและได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก ทั้งมาให้กำลังใจและอุดหนุน โดยหลังจากนางคอดียะห์ เหมสลาหมาด อายุ 50 ปี และสามี รักษาตัวจากโรคลิ้นหัวใจและไทรอยด์ทั้งคู่ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาต้องหยุดค้าขาย เมื่อหายดีแล้ว สองสามีภรรยาจึงออกทำมาหากินได้ เดินหน้าทำอาชีพที่รักและถนัด ด้วยการเปิดร้านส้มตำไก่ย่างคอดียะห์ เป็นเพิงเล็กๆริมถนน สายแยกควนสตอ-วังประจัน ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.ควนสตอ ต.ควนสตอ อ.ควนโดน เลยสามแยกควนสตอเพียง 1 กิโลเมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ

ซึ่งหากดูแค่ผิวเผินแล้ว อาจจะเป็นร้านเล็กๆธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ ผักและเครื่องเคียงเกือบทุกชนิดที่ใช้ปรุงเป็นเมนูส้มตำ จะนำมาจากสวนครัวหลังบ้านที่นางคอดียะห์ เจ้าของร้านเป็นคนลงมือปลูกเอง โดยมีสามีเป็นลูกมือ พร้อมยืนยันว่า ผักภายในสวนนี้ปลอดจากสารพิษ 100% ไม่ว่าจะเป็นถั่วฝักยาว มะเขือ พริกสด ผักบุ้ง ผักคะน้า และผักอื่นๆอีกมากมาย ที่ปลูกเป็นส่วนผสมและเป็นผักเครื่องเคียงส้มตำ 

ที่สำคัญ ลูกค้าที่มาทานส้มตำที่ร้านนี้ สามารถเดินเก็บผักมารับประทานเองได้ นอกเหนือจากให้แม่ค้าไปเก็บผักในสวนมาเป็นเครื่องเคียงทานกับส้มตำ ซึ่งจะได้รสชาติที่หวานกรอบอร่อย สดและปลอดสารเคมี ขณะที่เมนูส้มตำปลาร้าของที่ร้าน ก็จะใช้กุ้งทะเลทำเป็นกุ้งร้าแทนปลา เป็นสูตรใหม่ที่นางคอดียะห์ คิดขึ้นมาเอง ได้รสชาติกลมกล่อม อร่อยถูกใจลูกค้าไม่น้อย และยังสร้างจุดขายให้กับทางร้านได้เป็นอย่างดี

นางคอดียะห์ เปิดเผยว่า เดิมทีขายส้มตำไก่ย่างมานานกว่า 30 ปี หลังจากที่ล้มป่วยลงได้หยุดไป 5 ปี และพึ่งที่จะกลับมาขายเหมือนเดิม ตั้งใจไว้กับสามีว่าจะช่วยกันขายส้มตำไก่ย่าง และใช้ผักที่ชื่นชอบที่ปลูกไว้หลังบ้านมาเป็นเครื่องเคียง ในราคาย่อมเยา โดยเริ่มต้นที่ราคา 30 บาทในเมนูส้มตำธรรมดา และ 40 บาทในเมนูส้มตำไข่เค็มและส้มตำมะม่วง รวมทั้งตำซั่ว ส่วนไก่ย่างไม้ละ 10 บาท ซึ่งเมนูมีไม่มากนัก ค้าขายพอเลี้ยงชีพให้อยู่กันได้กัน 2 คนสามีภรรยา  

สำหรับ กุ้งทะเลที่นำมาเป็นกุ้งร้านั้น ตนคิดสูตรขึ้นมาเอง ทำเหมือนกับปลาร้า แต่เปลี่ยนมาเป็นกุ้งทะเลแทน ผลออกมาก็รสชาติอร่อยดี ลูกค้าหลายคนก็ชื่นชอบในความหอมกลมกล่อม โดยทางร้านจะเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงไปจนกว่าของจะหมด

ด้านนางบีเซาะ เกปัน ลูกค้าระบุว่า มาทานครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจ นอกจากรสชาติที่อร่อยเหมือนต้นตำรับมาจากอีสาน เนื่องจากแม่ค้าเป็นคนพื้นเพอีสาน (บุรีรัมย์) แต่มาตั้งรกรากเป็นสะใภ้เข้าอิสลามที่นี่ และยิ่งสร้างความมั่นใจและประทับใจกับผักที่ปลูกขึ้นมาเอง ให้กับลูกค้าได้ทานอย่างปลอดภัย ทั้งประทับใจในตัวของแม่ค้า ที่เป็นคนสู้ชีวิต แม้จะเจอมรสุมเข้ามาก็ไม่ย่อท้อ 

นายมะอุเส็น แซะอามา ส.อบต.ควนสตอ กล่าวว่า จะมาอุดหนุนลูกบ้านรายนี้อยู่เป็นประจำถ้ามีโอกาส เพราะอดีตเคยปลูกผักปลอดสารพิษขาย เมื่อล้มป่วยลงทั้งสองคนสามีภรรยาก็หยุดไปพักใหญ่ และกลับมาค้าขายอีก ตนจึงอยากจะมาอุดหนุนและอดชื่นชมในฝีมือการปรุงอาหารไม่ได้ รวมทั้งผักที่ปลอดภัยนำมาขายให้กับลูกค้า อยากให้ทุกคนมาช่วยกันอุดหนุนให้เยอะๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทั้งคู่ด้วย