"ทนายสายหยุด" ถอนตัวจากคดี "ทนายตั้ม" เผยแนวทางการทำคดีไม่ตรงกัน

(25 พ.ย.67) ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู หรือ ทนายปาเกียว เปิดเผยว่า ทนายอาคมเข้าไปแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับคดีของภรรยาและทนายตั้มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา จึงกลับมาหารือกันจะทำต่อหรือไม่ทำต่อ ตนได้วางเงื่อนไขตั้งแต่ต้นไว้ว่า 39 ล้าน ที่ตั้มเกี่ยวข้องหรือตนเชื่อว่าเกี่ยวข้องตนไม่ทำ

แล้วตนโทรไปถามร้อยเวรวันเสาร์ว่า 39 ล้านจะแยกคดีหรือจะรวมคดีเดิม ซึ่งร้อยเวรแจ้งว่าจะรวมกับคดีเก่าอีก 3 คดี ถ้ารวมตนมองว่ามันน่าจะสู้ไปไม่ไหวให้เขารับสารภาพได้หรือไม่ แล้วเงินที่เอามาคืนเขาไป ส่วนอีก 3 อย่างจะสู้ก็สู้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง

ซึ่งทนายตั้มบอกจะสู้ทุกอย่าง ตนจึงบอกว่าถ้าจะสู้ทุกอย่างคงทำคดีให้ไม่ได้ เพราะจะมีความผิดเกี่ยวกับเอกสารอีกที่จะมาแจ้งเพิ่ม 

ผลสรุปจะเป็นทนายให้ต่อหรือไม่นั้น ตนไม่ทำอยู่แล้ว ให้เขาหาทนายท่านใหม่ที่มีแนวคิดตรงกันกับเขา ซึ่งเขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจของตนเหมือนที่ตนเคารพการตัดสินใจของเขา

ส่วนรีแอคของเขาตอนที่ทราบ ทนายสายหยุด ตอบว่า ซึ่งเขาก็พอทราบจากญาติๆบ้างแล้ว ตนบอกว่าถ้าเล็กมาให้การเมื่อไหร่ว่าเอาเงินมาให้เขา 20 ล้าน เขาจะปฏิเสธยังไงว่าไม่เกี่ยว และมีข่าวว่าไปลงประจำวัน โทรให้เอาธนบัตรแบงก์ใหม่ๆ มีรถไปรับเงิน

สาเหตุหลักที่ตนถอนตัวออกคือแนวทางการทำคดีเป็นหลักไม่ตรงกัน ทนายคิดอย่างหนึ่งลูกความคิดอย่างหนึ่ง จะทำคดีได้อย่างไร เราพยามแนะนำทางที่ดีที่สุดสำหรับเขา เพราะเราอยู่ภายนอกเรารับข่าวสารปัจจุบัน เราก็เช็กจากผู้เกี่ยวข้องทุกวัน พยานหลักฐานมันยันตัวไปไม่ไหวจะพาไปติดคุกยาวๆ ตนก็ไม่เอาดีกว่า ให้เขาไปหาคนใหม่ที่คิดตรงกัน เขาคงมั่นใจในพยานหลักฐานของเขา 

ส่วนประเด็นที่อาจารย์ปานเทพ ออกมาเปิดเผยพยานหลักฐานบางส่วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทนายตัดสินใจจะไม่เป็นทนายความให้ทนายตั้มหรือไม่นั้น ถ้าเราตามข่าวดีๆ เอกสารที่อาจารย์ปานเทพนำมาเปิดนั้นได้นำมาเปิดที่รายการพี่หนุ่มแล้ว แต่ตนสังเกตเมื่อนำมาเทียบดูกับที่ตนมีอยู่ไม่ตรงกัน ตัวที่ตนมีอยู่เป็นตัวล่าง ไม่มีรายมือชื่อของคู่สัญญา ตนยังไม่ได้ส่งให้กับตำรวจ ซึ่งตนมาดูไม่เหมือนจึงเริ่มลังเลว่าเอกสารที่ตนถือนั้นมันจะตรงกับต้นฉบับหรือไม่ ถ้าตนไปอ้างใช้เดี๋ยวทนายตั้มก็มีความผิด ตนก็อาจมีความผิดไปด้วย เพราะเราไม่มีต้นฉบับ ถ้าเราดูว่ามันไม่ถูกต้อง ไม่แท้จริงเราก็ไม่จำเป็นต้องยื่น ซึ่งอาจารย์ปานเทพไม่ใช่ติวเตอร์ของตน ตนไม่เคยปรึกษาและไม่เคยคุย 

ส่วนเอกสารดังกล่าวตนได้สอบถามทนายตั้ม ซึ่งทนายตั้มบอกว่าเขาอาจจะเคาะแถวไม่ตรง ซึ่งมันก็ตัวเดียวกันมันมีหลายไฟล์จำไม่ได้ แต่สุดท้ายเอกสารที่จะใช้จะอ้างต้องเป็นเอกสารที่เขาลงชื่อในเครื่องเรามีกี่ไฟล์ไม่สำคัญ ซึ่งถ้ามันไม่ตรงกันตนจะใช้ยังไง ตัวที่พี่อ้อยใช้หน้าแถวไม่เหมือนกันแต่เนื้อหาไม่แน่ใจเพราะตนไม่มีต้นฉบับ แต่หลักๆทั้งหลายทั้งปวงเขาก็อ้างว่าเอามาทำสัญญาอยู่ดี

ส่วนใครจะรับไม้ต่อเป็นทนายให้นั้น เขาก็รู้จักทนายหลายท่าน แต่ไม่รู้จะตามใครมา ซึ่งตนไม่ได้ยุ่งตอนนี้เหลือแค่สถานะเป็นเพื่อนกัน ไปเยี่ยมสารทุกข์สุกดิบก็ว่าไป แต่เรื่องคดีตนไม่ขอยุ่ง ซึ่งทนายตั้มเองเขาก็ไม่ได้โกรธเป็นทนายเหมือนกัน ส่วนจะมองว่าจะทิ้งเพื่อนหรือไม่นั้น ทิ้งไม่ทิ้งมันเป็นการจ้าง