ตั้งคณะกรรมการสอบ บอสตำรวจ แต่งเครื่องแบบขึ้นเวทีอวย"ดิไอคอน"ฉ่ำ

ตั้งคณะกรรมการสอบ บอสตำรวจ แต่งเครื่องแบบขึ้นเวทีอวย"ดิไอคอน"ฉ่ำ

35024 ต.ค. 67 14:11   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผู้บังคับการแจง เพจดังเปิดคลิปแฉ "พ.ต.อ." แต่งเครื่องแบบขึ้นเวที "ดิไอคอน" เผยตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว ให้รายงานผลภายใน 15 วัน

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้โพสต์วิดีโอ และข้อความระบุว่า “บอสโปลิศ…ชีวิตดี๊ดีที่ The icon เส้นทางความสำเร็จที่สำนักงานตำรวจให้ไม่ได้”โดยภายในคลิป ตำรวจคนดังกล่าว ได้กล่าวบนเวทีว่า“วันนี้ไม่ต้องตกใจ แต่งเครื่องแบบมา ผม 100% ครับกับธุรกิจนี้ ผมพันตำรวจเอก … ผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร… ที่ท่านรู้จักผู้กำกับ… คือคนนี้ครับ” 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจดัง เปิดคลิป บอสโปลิศ อวยฉ่ำชีวิตดีที่ ดิไอคอน เส้นทางความสำเร็จที่สำนักงานตำรวจให้ไม่ได้


(24 ต.ค.67) พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้เปิดเผยว่า พ.ต.อ. ที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้นคือ พ.ต.อ.สมคิด รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี (สบ.7) ซึ่งในขณะนี้ได้เข้าไปรายงานตัวที่กองปราบปราม(กรุงเทพฯ) พร้อมเผยต่อว่าหลังจากที่สื่อหลายๆสำนักได้มีการเผยแพร่ข่าวออกมา โดยมีการกล่าวถึงรองผู้บังคับการจังหวัดสระบุรีที่ไปร่วมกิจกรรมของ ดิไอคอน ซึ่งทางตนเองได้เห็นแล้วพร้อมได้นำเรียนต่อ ผบ.ตร.ผู้บังคับบัญชาแล้ว 


โดยทาง ผบ.ตร.ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีการเชิญตัวทางรองผู้การฯ ไปพบยังสนง.กองปราบปรามแล้ว ส่วนในขั้นตอนการดำเนินการของทางตนเองนั้นตนเองได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงขึ้นปรากฏว่า 


ในขณะที่ทาง พ.ต.อ.ได้ไปขึ้นเวทีนี้มีเจตนาอย่างไร หรือทำธุรกิจขายตรงอย่างไร โดยการตรวจสอบจะต้องตรวจสอบในเรื่อง ความผิดที่มันคาบเกี่ยวกับคดีอาญาหรือไม่ หรือการที่ทาง พ.ต.อ.กล่าวถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงาน โดยการตรวจสอบถ้าหากไปพบว่ามีความผิดในส่วนไหนก็จะดำเนินการในส่วนนั้นไป โดยได้ตั้งคณะกรรมการไว้เรียบร้อยแล้ว และให้รายงานผลภายใน 15 วัน 


ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทราบว่าเกิดขึ้นในระหว่างที่ทาง พ.ต.อ. ปฏิบัติงานเป็น ผู้กำกับสอบสวน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และจะต้องเป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวนระดับ ตร.ที่จะต้องพิสูจน์กัน โดยตนเองไม่สามารถที่จะไปก้าวล่วงตรงนี้ได้ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงก่อน หรือหลังอย่างไร 


ซึ่งหลังจากมีภาพข่าวออกมาตนเองก็ยังได้พูดคุยกับ รอง.ผบก. ซึ่งท่านก็บอกกับตนเองว่า ที่ทำลงไปนั้นมีเจตนาที่จะทำธุรกิจขายตรง และทำยอดจนได้ไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนั้น แต่การพิสูจน์ทราบนั้นก็คงจะต้องเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน และการสอบสวนทางกฎหมาย ซึ่งหลังจากการสอบสวนแล้ว เป็นความผิดทางอาญา ก็ต้องดำเนินคดีอาญา ซึ่งการดำเนินคดีอาญาตอนนี้นั้น ตนเองอาจจะต้องรายงานผลการสอบสวน ซึ่งคดีอาญาจะมีคณะทำงานของระดับ ตร.เขาทำงานอยู่แล้ว 


ส่วนในเรื่องของความผิดทางวินัยนั้น จะมีลำดับชั้นอยู่ว่า วินัยร้ายแรง วินัยธรรมดา วินัยเล็กน้อย ซึ่งทุกการกระทำจะมีระดับความผิดเพราะฉะนั้น หลังจากตรวจสอบแล้วธุรกิจแล้ว ตามวินัยที่ตนเองจะต้องดำเนินการก็จะดำเนินการตามหน้าที่ซึ่งจากคำชี้แจงของ พ.ต.อ.นั้นได้แจ้งว่าตนเองประกอบธุรกิจขายตรง ไม่ได้มีส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง