เคลียร์ไม่ลงตัว! แก๊งเงินกู้รัวยิงหนุ่มหวังปิดหนี้

เคลียร์ไม่ลงตัว! แก๊งเงินกู้รัวยิงหนุ่มหวังปิดหนี้

54801 ส.ค. 67 00:01   |     AdminNews

หนุ่มวัย 34 ปี รอดตายหลังถูกแก๊งเงินกู้ตามทวงเงิน 10,000 บาท แต่ไม่มีให้ ก่อนถูกปืน .38 และ 9 มม. รัวยิงระยะเผาขน

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ร้อยตำรวจเอก(หญิง)บุญสิตา หาสิน รองสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุผลถูกอาวุธยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าปั๊มปตท.บายพาส เลี่ยงเมืองชลบุรีชลบุรี ขาเข้าพัทยา หมู่ 10 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ในที่เกิดเหตุพบนาย ณรงค์ฤทธิ์ อายุ 34 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บสภาพถูกยิงเข้าที่ลำตัว 2 นัด กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรีจากการตรวจสอบพบรถเก๋ง นิสสัน สีดำทะเบียน กพ xx54 กทม. ของผู้ได้รับบาดเจ็บ จอดอยู่บริเวณบริเวณริมถนนจากการตรวจสอบพบปลอกกระสุนขนาด .38 และขนาด 9 มม. ตกอยู่ 3 ปลอก และลูกกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงจำนวน 1 ลูก และพบรอยเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นทางยาวไปจนถึงในปั๊ม

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายณรงค์ฤทธิ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เล่าว่าตนถูกแก๊งเงินกู้ขี่รถตามก่อนจะจอดคุยกันเพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องเงินที่ตนกู้มายังมีเหลือค้างอยู่ 10,000 บาท และเงินกู้จึงได้สอบถามตนก็บอกว่ายังไม่มีจึงยังไม่ได้ให้ จากนั้นแก๊งเงินกู้จึงโมโหแล้วด่าทอตนด้วยหยาบคาย ก่อนจะคว้าปืนขึ้นมารัวยิงเข้าลำตัวของตน 2 นัด ตนจึงได้รีบวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ซึ่งจากการสอบถามพลเมืองดีที่ช่วยแจ้งตำรวจได้เปิดเผยว่าตนเห็นคนเจ็บวิ่งหนีหน้าตาตื่นมาที่ลำตัวมีบาดแผลและมีเลือดตนจึงได้สอบถามว่าโดนอะไรมาคนเจ็บได้ตอบว่าถูกยิงและวิ่งหนีมา ขอให้รีบแจ้งตำรวจให้ หลังจากนั้นตนจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้ดูอาการของคนเจ็บก่อนจะรีบแจ้งกู้ภัยให้ช่วยเหลือ

ด้านนายเอก(นามสมมุติ)ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ตนเห็นคนเจ็บยืนคุยกับคนก่อเหตุซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาจอดคุยกันข้างทางจากนั้นตนก็เห็นคนขี่รถจักรยานยนต์คว้าอาวุธปืนแล้วรัวยิงสามนัดก่อนคนเจ็บจะวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดแต่ขอความช่วยเหลือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนคนเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครอยู่ที่ไหนและจะได้ขอดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง