“พร้อมพงศ์” ยื่น กกต. ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ “ลุงป้อม”

“พร้อมพงศ์” ยื่น กกต. ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ “ลุงป้อม”

42313 ก.ย. 67 12:18   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“พร้อมพงศ์” เดินเกมต่อ วันนี้ยื่น กกต. เอาผิดถอดถอน-ตัดสิทธิ์ทางการเมือง “ประวิตร” พร้อมขอให้ชง “ศาลรัฐธรรมนูญ” ตัดสินยุบพรรคพลังประชารัฐ สังเวยคลิปเสียงปริศนา

(13 ก.ย. 67) เวลา 10.00 น.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นถอดถอนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และส.ส.บัญชีรายชื่อ จากกรณีคลิปเสียงหลุด“เรียกรับเงิน” และ“แทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงมหาดไทย“ ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 


นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า จากคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ออกมา มีทั้งคลิปเสียงที่เป็นการสนทนาระหว่าง”ลุง“ที่มีเสียงคล้ายพลเอกประวิตรพูดคุยกับนายโอ๋ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนายชัยวุฒิ ในลักษณะทวงถามและเรียกรับเงิน และคลิปเสียงสนทนาระหว่างพลเอกประวิตรกับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ส่อไปในลักษณะแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปสู่การใช้อำนาจดึงงบประมาณมาให้พลเอกประวิตร



พฤติการณ์ของพลเอกประวิตรถือเป็นการกระทำที่ผิดทั้งทางกฎหมายและผิดจริยธรรมร้ายแรง รวมทั้งผิดข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุไว้ว่า “ไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ”


พลเอกประวิตรในฐานะที่เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะต้องประพฤติตนโดยถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด ที่สำคัญพลเอกประวิตรไม่มีหน้าที่และอำนาจเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยและแทรกแซง”งบประมาณ“ ซึ่งเป็นเงินของแผ่นดินที่จะต้องจ่ายได้โดยชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง 


”พฤติกรรมของพลเอกประวิตรน่าจะมีเจตนาเพื่อเอาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน เพื่อทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ถือเป็นการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ และกระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 46 วรรค 2 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง สมาชิก หรือผู้ใด เพื่อจูงใจให้ตนหรือบุคลอื่นได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตาม ม.160(4)(5) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่”นายพร้อมพงศ์กล่าว


จึงขอให้กกต. พิจารณาไต่สวน และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อถอดถอนและเพิกถอนสิทธิทางการเมืองพลเอกประวิตร รวมทั้งยุบพรรคพลังประชารัฐ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ประกาศและข้อบังคับประมวลจริยธรรมฯ ต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง