“พระรอด” ตัวจริงฟ้อง บ.ประกัน รถคว่ำมา 10 เดือน ไม่จ่ายเยียวยา
“พระรอด” ตัวจริงฟ้อง บ.ประกัน รถคว่ำมา 10 เดือน ไม่จ่ายเยียวยา
พระครูฯ รอดจากรถคว่ำเมื่อ 10 เดือนก่อน รถพังยับ คนนั่งเจ็บสาหัส แต่ บ.ประกันของรถคู่กรณีกลับยังไม่จ่ายสินไหมทดแทน ไม่เยียวยา ไม่แม้แต่มาเยี่ยม สุดท้ายต้องพึ่งศาลช่วยเหลือ
(8 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2566 เกิดอุบัติเหตุ รถอีซูซุ มิวเซเว่น วิ่งมาทางตรง ก่อนมีรถกระบะสีขาว เลี้ยวตัดหน้า ทำให้รถอีซูซุเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ คนขับพร้อมด้วยพระสงฆ์อีก 3 รูปนั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บสะบักสะบอม
เหตุการณ์นี้ผ่านไปนานกว่า 10 เดือน ปรากฏว่าเรื่องยังไม่จบ เมื่อพระครูธรรมกิจโสภณ เจ้าคณะอำเภอบัวใหญ่ เจ้าอาวาสวัดป่าดอนหันกุดจอก จ.นครราชสีมา อายุ 58 ปี ออกมาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและเงินเยียวยาจากบริษัทประกันภัยชั้น 1 ของรถกระบะคู่กรณี โดยให้ทนายความยื่นฟ้องแพ่งต่อศาลจังหวัดพิมาย ขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องจากการกระทำละเมิดเป็นเงิน 3 ล้านบาท เพราะว่าตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุทำให้พระครูบาดเจ็บสาหัส มีอาการกระดูไหปลาร้าหัก และกระดูกซี่โครงหัก ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายรอบ และบริษัทประกัน ไม่เคยมาเหลียวแลแต่อย่างใด
พระครูธรรมกิจโสภณ หลวงพ่อผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น บอกว่า ขณะเดินทางไปรับกิจนิมนต์แสดงธรรมที่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุมีรถกระบะสีขาวเลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด รถจึงเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ อาตมาได้รับบาดเจ็บพอสมควร หลังเกิดเหตุศาลตัดสินให้คนขับรถทั้ง 2 ฝ่าย ประมาทร่วม เสียค่าปรับคนละ 10,000 บาท ส่วนรถยนต์ของอาตมาต้องขายซาก เพราะสภาพพังเสียหายยับเยิน
อาการบาดเจ็บของอาตมาต้องเข้า รพ.หลายรอบ แพทย์ระบุกระดูกไหปลาร้าหักและกระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง หลังจากนั้นก็มีอาการแทรกซ้อนตามมา สภาพร่างกายไม่เหมือนเดิม และเสียโอกาสรับกิจนิมนต์
ที่สำคัญรถกระบะคู่กรณีมีประกันภัยชั้น 1 ของบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ประสบเหตุก็ไม่เคยมาถามไถ่ ไม่สนใจเหลียวแลเยียวยาใด ๆ เลย ผ่านมา 10 เดือนจนเกือบครบปี จนอาตมาคิดว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงปรึกษาทนายความฟ้องศาล ในความผิดทางแพ่งฐานละเมิด ผิดสัญญาประกันภัย และเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งศาลจังหวัดพิมาย นัดหมายเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายในสุขภาพชีวิตและทรัพย์สิน อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างการเรียกร้องความเป็นธรรมจากบริษัทประกันภัย ที่ควรต้องแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพิกเฉย ล่าช้า ประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น