สั่งพักราชการ "ผอ.รร." ไม่จ่ายเงินอุดหนุนนักเรียนยากจน ให้นักเรียนที่ได้รับสิทธิ
สั่งพักราชการ "ผอ.รร." ไม่จ่ายเงินอุดหนุนนักเรียนยากจน ให้นักเรียนที่ได้รับสิทธิ
ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ลงนามคำสั่งพักราชการ ผู้อำนวยการโรงเรียน หลังไม่จ่ายเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน 500 บาท ให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับการจัดสรร โดยนำเงินไปใช้จ่ายผิดประเภท ไม่มีความโปร่งใส และใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลที่ไม่มีสิทธิได้รับ
จากกรณีผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนหนองผักตบศรีสมบูรณ์ร้องเรียนว่า บุตรหลานที่เรียนไม่ได้รับเงินทุนปัจจัยพื้นฐาน กองทุนนักเรียนยากจน 500 บาท ตามสิทธิ์รายชื่อที่ได้รับจัดสรร ซึ่ง ผอ.รร.ชี้แจงว่านำเงินดังกล่าวไปถัวเฉลี่ยซื้ออุปกรณ์การเรียนและชุดกีฬาแจกจ่ายนักเรียนทั้งโรงเรียน ซึ่งปฏิบัติตามที่ ผอ.ร.ร.คนเก่าเคยทำไว้ โดยไม่แจ้งผู้ปกครอง ทั้งที่บุตรหลานมีชื่อได้รับทุนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ปกครองไม่เคยทราบเรื่องและไม่เคยรู้ว่าบุตรหลานได้รับทุนในโครงการดังกล่าว จึงเห็นว่า ผู้อำนวยการนำเงินทุนการศึกษาของนักเรียนไปใช้ผิดประเภท ขอให้ย้ายผอ.ออกนอกพื้นที่และถ้าพบความผิดขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 2 มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา
(18 ต.ค.67) ล่าสุดที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอภิชัย เสนาโยธี ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ถึงกรณีที่ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่ผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนหนองผักตบศรีสมบูรณ์ บ้านหนองผักตบ ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านแฮด จ.ขอนแก่น ร้องเรียนให้ตรวจสอบการมอบทุนการศึกษา ในโครงการ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน คนละ 500 บาท บุตร หลานมีชื่อรับทุนดังกล่าว แต่ไม่เคยได้รับ บุตร หลาน บางคนเรียนจบชั้น ป.6 จนไปเรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนอื่นแล้ว ก็ยังไม่เคยได้รับเงินดังกล่าว
นายอภิชัย กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น หลังรับเรื่องก็ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง พบว่า มีการใช้เงินที่ผิดปกติ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ให้สรุปการสืบสวนภายใน 7 วัน โดยลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งครบกำหนดการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา การสืบสวนข้อเท็จจริงนั้น คณะกรรมการฯได้สอบครู สอบคณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียน รวม 22 ปาก
พบความผิดปกติในการบริหารจัดการเงินทุนในโครงการ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน จึงสรุปผลการสืบสวนมาให้ หลังทราบรายละเอียดจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่ามีมูล
ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงขึ้นมา เนื่องจากนางสาวอรวรรณ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองผักตบศรีสมบูรณ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีไม่จ่ายเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับการจัดสรร โดยนำเงินไปใช้จ่ายผิดประเภท ไม่มีความโปร่งใส ไม่เป็นไปตามที่ระเบียบของทางราชการกำหนด และใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลที่ไม่มีสิทธิได้รับ
ซึ่งหลังคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตรวจสอบพบว่ามีมูลความผิด และเป็นการทำผิดวินัยร้ายแรง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 24 มาตรา 53 ประกอบมาตรา 48 วรรคสอง แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงขึ้น เพื่อสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว โดยมอบหมายให้ นายสีดา เทียบอุ่น รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประธานกรรมการประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 และนางสาวจรัสธธรรม เคชบุญ ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารหารงานการเงินและกรรมการ สินทรัพย์ ชำนาญการพิเศษ นายคณพศ ศรีเสน ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายและคดี กรรมการและเลขานุการ ดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ศ.ศ.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2550 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
โดยในช่วงที่ทำการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 มีคำสั่งที่ 038/2567 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพักราชการ เนื่องจากนางสาวอรวรรณ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรือนบ้านหนองผักตบศรีสมบูรณ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ในกรณีไม่จ่ายเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับการจัดสรร โดยนำเงินไปใช้จ่ายผิดประเภท ไม่มีความโปร่งใส ไม่เป็นไปตามที่ระเบียบของทางราชการกำหนด และใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลที่ไม่มีสิทธิได้รับ มีเหตุให้พักราชการ ตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2555 ข้าเมื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางมีกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ผู้มีอำนาจจะสั่งให้ผู้นั้นพักราชการ จึงให้ นางสาวอรวรรณ พักราชการ และหากผู้ถูกกล่าวหา ประสงค์จะร้องทุกข์คำสั่งนี้ ให้ร้องทุกข์ต่อ อ.ก.ก.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น ก.ค.ศ. ภายในสามสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว
นายอภิชัยยังกล่าวอีกว่า กรณีที่ผู้ปกครองนักเรียน เรียกร้องให้ย้ายผู้อำนวยการรายนี้ออกนอกพื้นที่นั้น ไม่มีการโยกย้ายใดๆแล้ว เพราะสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 มีคำสั่งให้พักราชการไปแล้ว ผู้อำนวยการายนี้ ไม่สามารถจะเข้าไปดำเนินการใดๆในโรงเรียนได้อีก และในกรณีที่ผู้ปกครองเรียกร้องให้ ผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ จ่ายเงินทุนทุกบาทให้กับนักเรียนที่ได้รับทุนทุกราย แม้ว่านักเรียนรายดังกล่าวจะจบการศึกษาจากโรงเรียนไปแล้วก็ตาม ขอยืนยันว่า เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ทำผิด ก็ต้องนำเงินมาคืนให้นักเรียนทุกคน ส่วนกรณีที่ผู้อำนวยการคนนี้ประกาศคำสั่งใดๆไว้ในโรงเรียน เมื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 มีคำสั่งพักราชการไปแล้ว ทุกอย่างก็จะถูกยกเลิกทั้งหมด
นับจากนี้ไปสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ได้มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการจากโรงเรียนใกล้เคียงในพื้นที่เดียวกัน ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหนองผักตบศรีสมบูรณ์ แล้วเช่นกัน และหากการสอบสวนวินัยร้ายแรงตรวจสอบพบว่ามีบุคคลอื่นใดนอกเหนือจากผอ.ร.ร.ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรงแล้ว ก็จะต้องดำเนินการตามวินัยตามระเบียนขั้นตอนด้วยเช่นกัน