ชายป่วยติดเตียงวอนช่วยเหลือตกเป็นเหยื่อ"บัญชีม้า" ถอนเงินหมื่น - เบี้ยคนพิการ ไม่ได้

ชายป่วยติดเตียงวอนช่วยเหลือตกเป็นเหยื่อ"บัญชีม้า" ถอนเงินหมื่น - เบี้ยคนพิการ ไม่ได้

70312 ต.ค. 67 13:28   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ชายป่วยติดเตียงวอนช่วยเหลือตกเป็นเหยื่อ"บัญชีม้า" ถอนเงินหมื่น - เบี้ยคนพิการ ไม่ได้ ขณะที่หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

(12ต.ค.67) เวลา 09.30 น. นายชินกร แก่นคง นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมด้วย นายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ , นายวินัย ทองทัพ กำนัน ต.พระลับ , นายนิทัสน์ บุญพร้อม ผญบ.ม.9 บ.เลิงเปือย , พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ ศรวิเศษ รอง ผกก.ฯหน.สภ.ย่อยพระลับ และเจ้าหน้าที่จาก ทต.พระลับ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ม.9 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยพบกับ นายวัชกร พันธ์แก้ว อายุ 39 ปี ซึ่งเข้าร้องเรียนต่อเทศบาลตำบลพระลับว่าไม่สามารถถอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการได้ รวมทั้งเงินอุดหนุนคนพิการที่ได้รับการจัดสรรก็ไม่สามารถถอนเงินมาใช้ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งอายัดบัญชีและดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง หลังตกเป็นเหยื่อร่วมขบวนการเปิดบัญชีม้า


นายวัชกร กล่าวว่า หลังป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียงก็พยายามที่จะหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ด้วยการหางานหรือค้นหาข้อมูลที่จะมีรายได้เสริมมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนกระทั่งไปเข้าไปพูดคุยกับเพจแห่งหนึ่งเรื่องเทรดหุ้นและร่วมลงทุน โดยระบุว่าเพียงแค่เปิดบัญชีร่วมลงทุนก็ได้รับเงินแล้ว จึงชวนน้องสาวมาร่วมด้วย จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่อ้างว่ามาจากธนาคารมาถึงบ้านทำการสแกนใบหน้าและจัดเก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ ทั้งตนเองและน้องสาว 


"ซึ่งเมื่อทำการเปิดบัญชีเสร็จ ก็ได้รับเงินค่าตอบแทนทันที 300 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเพจที่ชักชวนลงทุนก็ไม่สามารถติดต่อใด ๆ ได้ จนกระทั่งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหมายเรียกจาก สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ส่งมาถึงตนเองและน้องสาวโดยระบุว่าเป็นผู้ต้องหาร่วมขบวนการฉ้อโกง หรือบัญชีม้า" นายวัชกร กล่าว


นายวัชกร กล่าวต่อไปว่า ด้วยความกลัว คุณแม่จึงไม่รับหมาย และไม่ติดต่อใด ๆ ตามเอกสารการที่ได้รับเพราะไม่รู้ว่าจะเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จากนั้นก็ค้นหาชื่อตนเองในโลกออนไลน์ก็พบว่าชื่อตนเองนั้นถูกระบุว่าเป็นบุคคลอันตราย ห้ามโอนเงินให้ หรือร่วมทำธุรกรรมใด ๆ ทั้งที่ตนเองไม่ได้ทำอะไรเลย และน้องสาวก็ไม่ได้ทำอะไร ทุกวันนี้เดือดร้อนมาก จากการตกเป็นเหยื่อของขบวนการบัญชีม้าทั้งในเรื่องของคดีความที่ไม่สามารถเดินทางไปพบตำรวจเพราะป่วยติดเตียง อีกทั้งบัญชีธนาคารออมสิน ที่รับเงินคนพิการเดือนละ 800 บาท และเงิน 10,000 บาท ที่ได้รับก็ไม่สามารถถอนมาใช้จ่ายใด ๆ ได้  


นายวัชกร บอกอีกว่า เคยให้คุณแม่ไปติดต่อที่ธนาคาร และพยายามที่จะติดต่อไปธนาคารทางโทรศัพท์ก็ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถถอนเงินได้เพราะบัญชีถูกตำรวจอายัดไปแล้ว รวมทั้งน้องสาว ที่ต้องรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดก็ไม่สามารถถอนเงินได้เช่นกัน เพราะตกเป็นเหยื่อบัญชีม้าและถูกอายัดบัญชีไปด้วย 


"อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตกเป็นเหยื่อบัญชีม้า เป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่ได้ไปหลอกใคร และต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือให้ได้รับเงินเพื่อมาซื้อแพมเพิส มาซื้อยา มาใช้จ่ายในครอบครัวเพราะมีเพียงคุณแม่ที่เสาหลักหาเงินมาเลี้ยงตนเองและน้องสาว ซึ่งน้องสาวไม่กล้าออกไปไหนเพราะรู้ว่าตนเองกำลังถูกตำรวจจับกับสิ่งที่ตกเป็นเหยื่อด้วย" นายวัชกร กล่าว


ด้าน นายชินกร แก่นคง นายอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่าเจ้าตัวมีคดีจริง ซึ่งได้ประสานงานร่วม สภ.ย่อยพระลับ ประสานงานกับร้อยเวรเจ้าของคดี เนื่องจากนายวัชรกร เป็นผู้ป่วยติดเตียงและแสดงตนว่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการบัญชีม้า ซึ่งต้องแยกเป็นแต่ละเรื่องในทางคดีไป เพื่อนำไปสู่การได้รับสิทธิ์ตามที่รัฐบาลได้มอบให้กับผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง 


นายชินกร กล่าวอีกว่า ซึ่งทราบว่าเงิน 10,000 บาท และเงินคนพิการนั้นมีการโอนเข้าบัญชีธนาคารแล้ว แต่ไม่สามารถถอนเงินมาใช้จ่ายได้ด้วยข้อกฎหมาย ขณะที่เงินคนพิการนั้นได้มอบให้เทศบาลฯแก้ไขเรื่องการรับเงินคนพิการตามกรอบอำนาจหน้าที่ ดังนั้นคณะทำงานแก้ไขปัญหาร่วมระหว่างเทศบาลฯ , ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมไปถึงธนาคารจะประสานการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย 


"ขอย้ำเตือนประชาชนว่าของฟรี ของถูก นั้นต้องตรวจสอบให้ดี และตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการถูกหลอกแบบผู้ป่วยติดเตียงรายนี้เพราะการอายัดบัญชี ตำรวจต้องอายัดทั้งหมดไม่ว่าคุณจะมีบัญชีอะไรบ้าง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกฎหมายก็ต้องสอบเจตนาตามขั้นตอนของตำรวจ ซึ่งจะต้องละเอียด รัดกุมและรอบคอบ" นายชินกร กล่าว


นายชินกร กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีความชัดเจนและปรารถนาดีในการสนับสนุนเงิน 10,000 บาท เพื่อให้กลุ่มคนพิการ และกลุ่มเปราะบาง ได้นำมาใช้จ่าย มากระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่อำเภอจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง