เปิดใจเจ้าของร้าน - พนักงาน ร้านขนมหวานเชียงใหม่ โดนแก๊งผู้สูงอายุป่วน
เปิดใจเจ้าของร้าน - พนักงาน ร้านขนมหวานเชียงใหม่ โดนแก๊งผู้สูงอายุป่วน

เปิดใจเจ้าของร้าน - พนักงาน ร้านขนมหวานเชียงใหม่ โดนแก๊งผู้สูงอายุป่วน ไม่จ่ายเงินตามราคา ซ้ำพูดข่มพนักงานจนเกิดความกลัว
(17ก.พ.68) กรณีดราม่าขึ้นที่ร้านขนมหวานที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากเพจ “ยู้ฮู ที่สุดของหวานเย็น”แฟรนไชส์ของหวานที่มีสาขาหลายจังหวัดทั่วประเทศ แชร์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่สาขาโครงการเจสเปซ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เผยพฤติกรรมไม่น่ารักของลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมจ่ายเงินตามราคาที่ระบุไว้ในเมนู แถมยังต่อว่าเหน็บแนมพนักงานขายในร้านและยังพูดจาพาดพิงถึงแบรนด์แฟรนไชส์ในทางเสียหาย ทำให้พนักงานในร้านที่เป็นผู้หญิงรู้สึกกลัวและที่สำคัญยังต้องเดือดร้อนควักเงินส่วนตัวจ่ายแทนลูกค้ากลุ่มนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการทำบัญชีของร้าน
โดยเพจ“ยู้ฮู ที่สุดของหวานเย็น”ซึ่งเป็นเพจหลักของแฟรนไชส์ บอกเหตุผลที่ตัดสินใจได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ว่าเพราะต้องการปกป้องพนักงาน ชื่อเสียงของแฟรนไชส์ และ สื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด พร้อมตั้งคำถามว่าลูกค้าแบบนี้เรายังควรต้อนรับต่อดีหรือไม่
ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่ร้านดังกล่าวพบว่าบริเวณหน้าร้านมีป้ายเมนูขนาดใหญ่ติดอยู่ที่หน้าร้าน ส่วนภายในมีเมนูหวานเย็นที่บอกราคาและรายละเอียดการสั่งไว้อย่างชัดเจน ส่วนภายในตู้ก็มีป้ายบอกราคาในส่วนของท็อปปิ้งที่จะต้องจ่ายเพิ่มให้เห็นชัดเจนด้วยเช่นกัน
พนักงานร้าน เล่าว่า ลูกค้ากลุ่มนี้มารับประทานของหวานที่ร้านแล้วหลายครั้ง เป็นกลุ่มลูกค้าวัยเกษียณที่มาเข้าคอร์สเต้นลีลาศในโครงการเดียวกัน แต่ละครั้งจะมากันหลายคน ส่วนเมนูดราม่าคือเมนูหวานเย็นจตุรเทพ ที่มีท็อปปิ้ง 4 อย่าง และ เมนู เดอะค็อป ที่มีท็อปปิ้ง 3 อย่าง ทั้งสองเป็นเมนูราคาเริ่มต้นของร้านที่ 35 บาท
พนักงานร้าน เล่าต่อไปว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการเปลี่ยนท็อปปิ้งเป็นอย่างอื่น แต่เป็นท็อปปิ้งที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอย่างละ 10 บาท เธอได้พยายามอธิบายให้ทราบแล้วว่าไม่สามารถลดหรือเปลี่ยนแปลงราคาได้ เนื่องจากเป็นราคาที่ทางแฟรนไชส์กำหนดมา และขอให้เลือกเปลี่ยนเป็นท็อปปิ้งในกลุ่มที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ลูกค้าโดยเฉพาะคุณลุงกลับไม่พอใจโวยวายต่อว่าให้ไปบอกเจ้าของสาขาว่าต้องตามใจลูกค้า
"และยังพูดเยาะเย้ยถากถาง หัวเราะกันเป็นเรื่องตลก พยายามบอกว่าเป็นแค่พนักงาน ทำอะไรไม่ได้ แต่กลุ่มค้าก็ยังไม่พอใจและยืนยันจ่ายตามที่ตัวเองต้องการ ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ต้องยอมให้จ่ายตามที่ลูกค้าพอใจ ส่วนเงินส่วนต่างตนกับเพื่อนพนักงานก็ช่วยกันควักกระเป๋าจ่ายแทนให้เพราะไม่อยากมีปัญหา" พนักงานร้าน กล่าว
พนักงาน บอกด้วยว่า ลูกค้ากลุ่มนี้มาครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ประมาณ 7 - 8 คน ครั้งแรกก็เกิดปัญหา หลังจากนั้นก็ยังมาอีก 2 - 3 ครั้งและเป็นเหมือนเดิม โดยเหตุการณ์ในวงจรปิดเป็นครั้งที่ 3 (5ก.พ.) จนช่วงหลังตนและเพื่อนพนักงานตัดสินใจบอกเจ้าของสาขาเพราะรับมือไม่ไหว พร้อมกับบอกว่าตกใจ ไม่เคยเจอแบบนี้ ไม่รู้จะรับมือกับเขายังไง วอนลูกค้าขอให้ช่วยใจดีกับพนักงาน เพราะราคาเมนูหลักและบางส่วนที่อาจต้องจ่ายเพิ่มก็ไม่ได้แพงอะไรมาก
ด้าน เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ร้านเปิดมาได้ไม่ถึงสองเดือน เมนูหวานเย็นทางร้านมีทั้งแบบเป็นเซตที่ราคา 35 บาท และ เมนูแบบเลือกท็อปปิ้งเองได้ทุกอย่าง 45 บาท ที่ผ่านมาก็มีลูกค้ามาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ลูกค้ากลุ่มนี้มาแล้วหลายครั้ง มาสั่งเมนูเซต 35 บาท แต่อยากเปลี่ยนท็อปปิ้งตามใจชอบ แต่ไม่ยอมจ่ายเพิ่ม
"อยากให้ลูกค้าเห็นใจทางร้าน เพราะท็อปปิ้งบางอย่างต้นทุนสูง คือ มะพร้าวกะทิ ลูกตาลอ่อน ลูกหลาน และ มะพร้าวอ่อน ทำให้ทางร้านต้องเก็บเพิ่ม" เจ้าของร้าน กล่าว
เจ้าของร้าน บอกด้วยว่า หลังจากทราบเรื่องจากพนักงานได้กำชับให้ยืนยันราคาและเงื่อนไขให้ชัดเจน ยอมรับว่ามาเจอลูกค้าแบบนี้ก็เสียความรู้สึก เพราะราคาก็ไม่ได้แพงมาก แต่ละเมนูกำไรไม่มาก อยากให้เห็นใจทางร้าน หลังจากนี้หากเจอลูกค้าแบบนี้ก็ยอมไม่ขายให้ดีกว่า
"ขอบคุณคุณลูกค้าคนอื่น ๆ ที่แวะมาให้กำลังใจและคอมเมนต์ที่ให้การสนับสนุน ยืนยันว่าที่เพจหลักโพสต์ก็เพราะต้องการสื่อสารให้ลูกค้าได้เข้าใจและเห็นใจพนักงานและทางร้านในฐานะผู้ประกอบการ" เจ้าของร้าน ระบุ
ข่าวเวิร์คพอยท์23
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
