นายกฯ เสนอถก RBC ระดับกองทัพ ย้ำจุดยืนสันติภาพ - ฉะเขมรทำสงครามข่าวสาร

นายกฯ เสนอถก RBC ระดับกองทัพ ย้ำจุดยืนสันติภาพ - ฉะเขมรทำสงครามข่าวสาร

66716 มิ.ย. 68 12:45   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“แพทองธาร” แถลงหลังเรียกประชุมด่วนที่บ้านพิษณุโลก เผยตั้งทีมไทยแลนด์รับมือปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ย้ำจุดยืนของไทยในการเจรจายึดแนวทางสันติและกรอบทวิภาคี พร้อมเสนอเจรจา RBC ต่อระหว่างกองทัพ - ฉะ กัมพูชาทำสงครามข่าวสาร ไม่เป็นผลดีไม่ว่าต่อฝ่ายไหน

(16 มิ.ย. 68) ที่บ้านพิษณุโลก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่ผ่านมาถือเป็นผลสำเร็จ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยอมรับกรอบการประชุมร่วมกัน


นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในรูปแบบ "ทีมไทยแลนด์" เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้นำทีมในการติดตามข้อมูลข่าวสารและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง


ในประเด็นเรื่องด่านชายแดน นางสาวแพทองธารชี้แจงว่า "เราไม่ได้ปิดด่าน แต่เป็นการกำหนดเวลาเปิด-ปิดใหม่" ซึ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นหลังจากตรวจพบการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักและอาวุธระยะไกลเข้ามาในพื้นที่ชายแดนฝั่งกัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองชาติ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น


"การที่เอาอาวุธใหญ่ออกมาแบบนั้น ถ้าเราไม่กำหนดเวลาเปิดปิดเลยแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ความเสียหายจะมากมายมหาศาล" นายกฯ กล่าว


นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ตลอดการเจรจา ประเทศไทยยึดมั่นในกรอบทวิภาคีและให้เกียรติซึ่งกันและกันเสมอมา อย่างไรก็ตาม การสื่อสารที่ไม่เป็นทางการและ "ไม่เป็นมืออาชีพ" ผ่านโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา ได้สร้างความสับสนและส่งผลกระทบในทางลบต่อการเจรจาทั้งในระดับทางการและระดับหลังไมค์


"การสื่อสารแบบนี้ไม่ได้เกิดผลดีกับทั้งสองประเทศ ข้อความที่ทางกัมพูชาได้โพสต์ เราต้องคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทั้งไทยและกัมพูชา การประกาศเรื่องปิดด่านเลย เป็นการที่เกิดผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ"


เพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าได้ส่งข้อความถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ซึ่งเป็นการประชุมในระดับกองทัพของทั้งสองประเทศ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป


นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมเชิญทูตานุทูตต่างประเทศที่ประจำในประเทศไทยเข้ารับฟังการชี้แจงในช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานการณ์และจุดยืนของประเทศไทยต่อประชาคมโลก


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่ารัฐบาลและกองทัพมีความเห็นเป็นหนึ่งเดียวกันในการปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการหลีกเลี่ยงการปะทะและการสูญเสียเลือดเนื้อ พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและกองทัพ


"วันนี้เราไม่ได้ต่อสู้กันเอง เรารักษาอธิปไตยของเราไว้ เราเป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีและแข็งแรงเช่นกัน และจะไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่หรือใส่ร้าย วันนี้ถ้าไม่เคารพกฎกติกา ก็จะไม่ถูกยอมรับโดยทั่วโลก" นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้าย



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat