นายกฯ แถลงด่วน 'คดีตากใบ' ก่อนหมดอายุความพรุ่งนี้ (25 ต.ค.)

(24 ต.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณัคดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 85 ราย ซึ่งกำลังจะหมดอายุความในวันพรุ่งนี้(25 ต.ค.) หากไม่สามารถตารมตัวจำเลยในคดมาขึ้นศาลได้

โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่าตนรู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และเห็นว่ารัฐบาลที่ผ่านมาก็ได้แสดงความรู้สึกเสียใจและขอโทษต้องผู้สูญเสีย รวมถึงการเดินเรื่องเยียวยาให้ครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ตนอยากจะขอโทษในนามรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง และสัญญาว่าหลังจากนี้จะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้อีก

ในส่วนของการออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) เพื่อยืดอายุความ ที่มีหลายภาดส่วนเสนอมานั้น น.ส.แพทองธารระบุว่าได้มีการส่งคำถามไปทางสำนักงานกฤษฎีกาแล้ว และได้รับคำตอบมาว่าไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ ม.172 และ ม.174 และการตรากฎหมายขึ้นใช้กับเฉพาะคดีเดียว ไม่ครอบคลุมคดีอื่นในลักษณะเดียวกันจะไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 26 วรรค 2 (กฎหมายตามวรรคหนึ่ง ต้องมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไป ไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง) และอาจเป็นการเลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ม.27 และขัดต่อหลักกฎหมายอาญาสากล

นักข่าวได้ถามต่อว่าในช่วงนี้เริ่มมีข่าวสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ถี่มากขึ้น ทางนายกรัฐมนตรีระบุว่าทางรัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตระหนักถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นและไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก อยากให้เหตุการณ์สงบสุขไม่อยากให้ทุกฝ่ายเกิดความขัดแย้งกันพร้อมย้ำว่ารัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว

ส่วนฝ่ายความมั่นคงจะต้องตรึงกำลังและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบมากขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้ย้ำเรื่องความปลอดภัยของคนในประเทศเป็นเรื่องสำคัญทั้งหน่วยงานความมั่นคงซึ่ง ได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหม ก็ดูและเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้วเรื่องนี้พยายามตรึงกำลังอยู่แล้ว

ส่วนรัฐบาลจะทำอย่างไรให้ประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความไว้ใจรัฐบาล หลังคดีหมดอายุควาทความไว้ใจต่อรัฐบาลของคนในพื้นที้ก็หมดไปด้วย นายกรัฐมนตรี ตอบว่าเพราะคดีตากใบมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก พร้อมย้ำว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจวันนี้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็เสียใจ และคิดว่านายกรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ผ่านมาก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะทุกคนก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่งได้มีการเยียวยาทุกอย่างไปแสดงความรับผิดชอบในส่วนที่ทำได้ และตนเองจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเช่นกัน ไม่อยากให้ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้ทุกคนช่วยกันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะเกิดความสามัคคีได้ก็ต้องอาศัยทุกฝ่ายร่วมร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความสงบสุข เรื่องไหนที่รัฐบาลทำได้ก็จะทำให้เต็มที่และอยากให้ประชาชนทุกคนไว้ใจว่ารัฐบาลมาอยู่ตรงนี้อยากทำให้ประชาชนได้สบายใจและให้บ้านเมืองสงบสุขนั่นคือเป้าหมายสำคัญ”

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และตอนนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ลูกสาวจะทำอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็รับผิดชอบอย่างเต็มที่ ซึ่งรัฐบาลนายทักษิณ และรัฐบาลที่ผ่านมาได้รับผิดชอบไปแล้ว ย้ำว่าตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทุกพื้นที่ประเทศไทยอย่างเต็มความสามารถ ส่วนกังวลหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องประเทศชาติ และการดูแลทุกคนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดจะต้องดูแลเต็มที่ 

ส่วนวิธีลดอุณหภูมิครอบครัวผู้สูญเสีย ไม่อยากให้โยงเรื่องนี้กับการเมือง เพราะคดีตากใบ ได้รับการเยียวยาไปแล้ว ทุกคนได้พยายามสุดความสามารถ ไม้อยากให้อะไรที่ไม่เกี่ยสกับคดีนี้เป็นตัวเสริมเกิดความรุนแรง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายความโจทก์เตรียมหารือฟ้องศาลโลกนั้น ในฐานะรัฐบาลจะสนับสนุนอย่างไร นายกรัฐมนตรีตอบว่า “คดีนี้มีหลายองค์ประกอบ ตนเองคงตอบอย่างอื่นไม่ได้ คิดว่าศาลได้ตัดสินไปแล้วก่อนหน้านี้”

ส่วนข้อเสนอ กมธ.สันติสุข และชายแดนใต้เสนอหลังคดีหมดอายุความรัฐบาลอาจจะต้องจ่ายเยียวยาเพิ่มหรือไม่ นายกฯ ตอบว่าต้องไปพิจารณากันว่าในขณะนั้น 20 ปีที่แล้วคดีจบแบบไหน และมีอะไรที่สามารถเพิ่มเติม พูดคุย พร้อมย้ำว่าไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ข้อเสนอนี้พูดคุยกันได้ และหากมีโอกาสพร้อมจะลงพื้นที่ไปทุกที่ของประเทศไทย โดยจะหาเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม 

ส่วนการติดตาม พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 หนึ่งในจำเลย และผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีมีความคืบหน้าหรือไม่ นายกรัฐมนรีตอบส่า ตำรวจได้ทำเต็มที่ แต่ไม่มีคนติดต่อกลับมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวสอบถาม เหลือเวลาอีก 1 วัน จะมีปาฎิหารย์ที่จะนำตัวจำเลยเข้าสู่ศาล นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “เราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ปาฏิหารย์หรอ มันต้องใช้เรื่องจริงค่ะ”