ทลายบ่อนใหญ่นครนายก รวบนักพนัน 200 กว่าชีวิต

ทลายบ่อนใหญ่นครนายก รวบนักพนัน 200 กว่าชีวิต

53404 ก.พ. 68 09:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ทลายบ่อนใหญ่ เปิดกลางทุ่งนา จ.นครนายก มีให้เล่นทั้งออนไลน์-ออนไซต์ พร้อมจับนักพนันกว่า 200 ราย ชิปแลกเงินอีก 2 ล้าน!

(4 ก.พ. 68) เวลา 23.00 น. คืนที่ผ่านมา(3 ก.พ.) ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำกำลังจัดชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครนายก และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอองครักษ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบุกทลายบ่อนการพนันกลางทุ่งนาในพื้นที่อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก


ปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มต้นมาจาก มีผู้ร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครนายก และศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ว่ามีบ่อนการพนันขนาดใหญ่เปิดให้นักพนันเข้าเล่นตลอด 24 ชม. โดย นายชานน วาสิกศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ได้เข้าตรวจสอบด้วยตนเอง พบว่ามีรถเข้าออกสถานที่แห่งนี้หลายคันและเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นบ่อนการพนันจริง แต่เมื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำกำลังเข้าทำการจับกุมบ่อนการพนันดัวกล่าว พบว่าบ่อนการพนันจะปิดในทันที จึงได้ประสานกำลังจากส่วนกลาง เพื่อบูรณาการร่วมกันเข้าทลายจับกุมบ่อนการพนันแห่งนี้ 


   

ผลการจับกุมในครั้งนี้ พบว่ามีการเล่นการพนันประเภท เสือมังกร ไฮโลว์ และพนันออนไลน์ พบนักพนันกว่า 200 คน ของกลางเป็นเงินสดและชิปแทนเงินสดรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท  และอุปกรณ์การเล่นการพนันอีกเป็นจำนวนมาก 


จากการสืบสวนพบว่า บ่อนแห่งนี้มีพฤติการณ์ รับ-ส่ง นักพนันจากในหลายพื้นที่เข้ามาเล่น มีทั้งรถแท็กซี่ มินิบัส และรถตู้ ขนนักพนันเข้ามาเล่นเป็นจำนวนมาก โดยพบว่า บ่อนแห่งนี้มีการเปิดเล่นการพนันเป็นเวลาเกือบปีแล้ว แต่มีการหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่มาหลายครั้ง จนนำมาสู่การวางแผนการจับกุมร่วมกันระหว่างส่วนกลางและพื้นที่ในครั้งนี้



โดยได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมด ในข้อหา ดังนี้

  1. ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 4 วรรค 1, มาตรา 5, มาตรา 10 ประกอบมาตรา 12 (2) แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ร่วมกันเข้าเล่นหรือเข้าพนันเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 4 วรรค 1, มาตรา 5, มาตรา 10 ประกอบมาตรา 12 (2) แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำตัวนักพนันทั้งหมดไปที่ว่าการอำเภอองครักษ์เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง