ผสห.ผิดหวังหลังซื้อทองออนไลน์จากร้านดัง แต่เอาไปขายแล้วขาดทุน

(23 ก.ย.67) นางสาววงศ์ผกา ชนะการ อายุ 35 ปี หรือ ฝ้าย เผยว่า ส่วนตัวซื้อกำลังปี่เซียะ 8 ตัว เมื่อปี 2564 ในราคา 33,332 บาท ซึ่งในปีนั้นราคาทองบาทละ 28,250 บาท ส่วนตัวจึงคิดว่าส่วนต่าง 4,000 บาท นั้นเป็นค่ากำเหน็จ โดยภายในไลฟ์การขายได้มีการแจ้งว่าปีเซียะดังกล่าวค่ากำเหน็จสูง แต่ไม่ได้บอกน้ำหนักทองจริงว่ากี่กรัม จึงทำให้ส่วนตัวคิดว่าได้ทองน้ำหนัก 1 บาทมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เพจดังอ้างร้านทองดัง ป้ายราคา 77,000 บาท ซื้อมา 30,000 บาท เอาไปขายได้พันกว่าบาท

โดยหลังจากสั่งซื้อทางร้านไม่ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม บอกเพียงชื่อสินค้าและราคาที่ต้องจ่าย จนเมื่อได้รับปี่เซียะก็พบว่าปี่เซียะบุบที่ก้น ตัวเองจึงพยายามติดต่อโทรหาทางร้านแต่ร้านไม่รับสาย และได้เดินทางไปหน้าร้านถึง 2 ครั้ง แต่ก็พบว่าร้านปิดทั้ง 2 ครั้ง จึงมองข้ามไป ซึ่งตอนนั้นก็ยอมรับว่าวันนั้นไม่ได้ดูใบรับประกัน จนเมื่อปี 2565 ตัวเองมีปัญหาด้านการเงินจึงนำปี่เซียะไปขายให้กับร้านทองจำนวน 4 ร้าน แต่ไม่มีร้านใดรับซื้อ แต่ก็มีร้านทองบางร้านแนะนำให้นำไปขายคืนที่ร้านเดิม บางร้านก็ตกใจในราคาที่ซื้อเริ่มต้น และบางร้านก็รับซื้อแค่ 10,000 บาท ซึ่งสาเหตุที่ร้านทองหลายร้านไม่รับซื้อเพราะทองดังกล่าวไม่มีตราปั๊มเหมือนกับทองปกติที่ขายในร้านทองทั่วไป 

แม้ว่าทางแม่ตั๊กจะอ้างว่ามีของแถมให้ แต่ส่วนตัวไม่ได้ต้องการของแถม และของแถมดังกล่าวทางร้านให้เป็นของสมนาคุณเอง หรือต่อให้ของแถมจะมีมูลค่ามากกว่าทองทางร้านก็ไม่สามารถเอามารวมในราคาของได้ และในมุมมองตัวเองที่เป็นแม่ค้าเหมือนกันมองว่าการค้าขายต้องสุจริต ยอมรับว่าไม่มีใครขายของขาดทุน แต่ควรเอากำไรพอควรพองาม เขาอยู่ได้เราอยู่ได้จะได้อยู่ยาว ไม่งั้นคงจบเหมือนเคสนี้ 

ส่วนตัวไม่กังวลหากอีกฝั่งจะฟ้องเพราะตัวเองเป็นผู้เสียหาย แต่มองว่าอีกฝั่งสมควรมาขอโทษ และไม่ควรฟ้อง ซึ่งหากมีการฟ้องขึ้นมาส่วนตัวเชื่อว่าถูกคนทั้งประเทศตีตราแน่นอน หรือแม้กระทั่งคุณสตางค์ที่ออกมาตีแผ่อีกฝั่งก็ควรขอโทษ เพราะถ้าหากคุณสตางค์ไม่ออกมาก็ไม่กล้ามีใครออกมาเรียกร้อง พร้อมยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

สุดท้ายอยากฝากถึงทุกคนที่ชอบซื้อออนไลน์ว่า อยากให้ทุกการซื้อของที่มีราคาสูงผ่านกระบวนการคิดให้ได้มากที่สุด หรือไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้อออนไลน์ เพราะอย่างกรณีดังกล่าวขนาดร้านค้าที่มีหน้าร้านยังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้

นางสาวฝ้าย ทิ้งท้ายว่า “ทองแท้ยังไงก็คือทอง ขายที่ไหนก็ต้องขายได้” และ “วันนี้ได้เจอแม่ตั๊กแล้วไม่เห็นมั่นเหมือนในไลฟ์”

ด้าน คุณอภินันท์ เดือนดาว อายุ 37 ปี หรือ สตางค์ เจ้าของคลิป TikTok เผยว่า กรณีที่อาจจะถูกทางฝ่ายแม่ตั๊กดำเนินคดี ส่วนตัวอธิบายว่า ในวันที่ไลฟ์สดตัวเองเมาด้วย ก็เลยมีการหยิบการ์ดของร้านออกมา ซึ่งตัวเองก็ไม่ทันได้เห็นเหมือนกัน แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว ตัวเองก็ไม่กังวล ถ้าเขาจะฟ้อง ซึ่งอยากจะฟ้องในประเด็นไหนก็จะตั้งรับ เดี๋ยวค่อยไปสู้กัน

ส่วนการชี้แจงในวันนี้ ตนเองว่าก็เคลียร์ในระดับหนึ่ง แต่เขาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

ด้านคุณ กวาง ปิยธิดา สุกหน่าย จ.อยุธยา บอกว่าตัวเองน่าจะโดนหนักที่สุดเพราะซื้อจากความที่เห็นว่าโปรไฟล์เป็นคนใจบุญแล้วก็อยากที่จะอุดหนุนแต่สิ่งที่ตัวเองรู้สึกผิดหวังก็คือเราซื้อราคาเนื้อทองคำไม่ได้ซื้อตัวความศรัทธาซึ่งสิ่งที่ยังไม่ชัดเจนในวันนี้คือปริมาณทองในราคาที่จ่ายไปมันไม่สมเหตุสมผลกัน และสิ่งที่ควรจะได้รับคือคำขอโทษก็ยังไม่ชัดเจน ทองที่ตัวเองซื้อไปให้กับแม่เป็นของขวัญวันเกิดแล้วตอนที่แม่เดือดร้อนเอาไปจำนำกลับได้เงินมาแค่หลักพันบาท แม่เอามาขว้างแล้วก็บอกว่าเอาทองของมึงไป เพราะแทบไม่มีราคา ตัวเองซื้อไปเซตนั้น 80,000 กว่าบาทเอาไปจำนำได้เพียงแค่ 30,000 บาทซึ่งราคามันหายไปเยอะมาก 

จากนั้นผู้เสียหายได้รวมตัวกันเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน ที่สน. ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีต่อไป