ชาวบ้านไม่เห็นด้วย VAT15% ชี้เศรษฐกิจแย่-ทำให้กำลังซื้อลดลง

(6 ธ.ค. 67) หลังจากที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่าอยู่ในขั้นตอนการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยมีการเสนอสูตรภาษี 15-15-15 คือ ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากปัจจุบัน 7% เป็น 15%, ปรับลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 15% เพื่อดึงดูดการลงทุน, และปรับภาษีเงินได้ส่วนบุคคลหรือ ภงด. จากเดิม 5-35% ตามแต่ขั้นรายได้ เป็น 15% เท่ากันทั้งหมด(flat rate)

ถึงแม้ว่ากรณีดังกล่าวยังเป็นขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้ ข้อดี ข้อเสีย ยังไม่ใช้การเสนอเพื่อใช้อัตราภาษีใหม่ก็ตาม แต่ก็ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องของการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% ที่จะกระทบทั้งคนที่อยู่ในและนอกระบบภาษี

ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ บริเวณตลาดใหม่แม่กิมเฮง ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา พูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ถึงกรณีดังกล่าว นายสุวรรณ อายุ 52 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง กล่าวว่า ตอนนี้เศรษฐกิจต่างๆ ไม่ดี แทนที่รัฐบาลจะคิดหาทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ลดค่าแก๊ส, ค่าน้ำมัน, ค่าครองชีพ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น แต่กลับมาคิดที่จะขึ้นภาษี ซึ่งเดิมทีเคยได้ยินว่าจะขึ้นเป็น 10% ก็ว่ามากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รัฐบาลกำลังจะขึ้นภาษีถึง 15% ประชาชนหาเช้ากินค่ำ ได้วันละ 100-200 บาท อย่างตนจะอยู่ได้อย่างไร ไปเติมน้ำมัน 100 บาท ก็ถูกหักภาษีไปแล้ว 15 บาท เงินส่วนนี้ถ้าหักต่อเนื่องไม่ใช่น้อยๆ เลย ต่อไปคงจะไม่มีคนจนเหลืออยู่อีกแล้ว เพราะคนจนจะตายกันไปหมดแล้ว

ด้านนายมานะ อายุ 46 ปี อาชีพพ่อค้าทำเครื่องบายศรี กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับความคิดที่จะขึ้นภาษี แค่จะเพิ่มขึ้นมา 10% ก็ไม่มีใครเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้รัฐบาลจะขึ้นมาทีเดียวเป็น 15% เลย แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไร

เพราะอย่างตนเองต้องไปซื้ออุปกรณ์ในการทำเครื่องบายศรีจากร้านค้าต่างๆ ถ้าถูกเพิ่มภาษีขึ้นจาก 7% เป็น 15% อีก ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งที่ในความจริงเศรษฐกิจแบบนี้ ภาครัฐต้องช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน แต่ต้องมาเพิ่มภาษี เพื่อให้ประชาชนแบกรับภาระหนักขนาดนี้ ไม่สมควรอย่างยิ่ง

ทุกวันนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดีอยู่แล้ว ตลาดเงียบมาก ขายของแทบไม่ได้กันเลย เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ถ้าช่วยกันคิดหาทางทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทำมาค้าขายดีขึ้น การขึ้นภาษีประชาชนก็จะไม่เดือดร้อนอะไรมาก แต่ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ ยังต้องมาแบกรับภาระภาษีเพิ่มขึ้นอีก ตนเองจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ขณะที่ที่จังหวัดชัยนาท ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายรักษ์ เจ้าของร้านขายเสื้อผ้ารายใหญ่ของจังหวัด ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์หากมีการปรับลดภาษีนิติบุคคลลง กล่าวว่า หากจะมองแบบเผินๆ ก็จะเห็นว่าห้างร้านต่างๆ ได้ประโยชน์ แต่เอาเข้าจริงแล้วการลดภาษีนิติบุคคล แต่ไปเพิ่มภาษีสินค้าในชีวิตประจำวัน จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

เพราะอย่างตนเองแม้จะได้ประโยชน์จากการเสียภาษีน้อยลง แต่กลับต้องไปเจอภาระที่หนักกว่าคือของที่ต้องกินต้องใช้แพงขึ้นทุกชิ้น การเพิ่มของภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อเทียบกับส่วนลดของภาษีนิติบุคคลที่ลดลง น่าจะได้ไม่คุ้มเสีย

แถมจะเป็นการทำลายโครงสร้างเศรษฐกิจภาพรวมด้วย เพราะการเพิ่มภาระ VAT ในสินค้าทุกชิ้น จะไปลดกำลังซื้อในตลาด ซึ่งก็จะเกิดผลกระทบตามมาเป็นโดมิโน่ สินค้าของผู้ประกอบการเองก็จะขายได้น้อยลง ตลาดจะซบเซาเพราะของแพงขึ้น เมื่อคิดคำนวณในภาพรวมตนเองไม่เห็นด้วย รัฐบาลไม่ควรไปแตะต้องเรื่องของภาษีในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ดีพอ

ทั้งนี้สำหรับเรื่องการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% นั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ความเชื่อมั่นแล้วว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอย่างแน่นอน