รวบ“ไอ้เก้ย”หลอนยาคาห้องนอน หลังเสพไป 40 เม็ดทำนอนไม่หลับ ขอเงินยายไม่ได้เดินควงมีดเดินขู่รอบบ้าน
รวบ“ไอ้เก้ย”หลอนยาคาห้องนอน หลังเสพไป 40 เม็ดทำนอนไม่หลับ ขอเงินยายไม่ได้เดินควงมีดเดินขู่รอบบ้าน
รวบ“ไอ้เก้ย”หลอนยาคาห้องนอน หลังเสพไป 40 เม็ดทำนอนไม่หลับ ขอเงินยายไม่ได้เดินควงมีดเดินขู่รอบบ้าน สารภาพติดเสพยาบ้ามาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 ทุกวันนี้เสพยาบ้าวันละไม่ต่ำกว่า 10 เม็ด ที่เสพเยอะเพราะถูกแฟนทิ้ง
(23 ธ.ค.67) ขณะที่ ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสายตรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุหลานชายเสพยาหลอน เดินควงมีดพร้าขู่ยาย หลังขอเงิน 100 บาทไม่ได้ เกรงว่ายายและคนในบ้านที่มีแต่ผู้หญิงป่วยและสูงวัย จะได้รับอันตราย อยากให้ตำรวจช่วยมาควบคุมตัวไปรักษาอาการ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เหตุเกิดที่บ้าน ซอยพลนามอินทร์ 6 ถ.ทหาร ชุมชนหนองขอนกว้าง 2 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังพร้อมกับไม้ง่ามออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบคุณยายตันหยง อายุ 91 ปี ยาย และนางศศิธร อายุ 66 ปี ประธานชุมชนหนองขอนกว้าง 2 ให้ข้อมูลว่า นายเฉลิมวุฒิ หรือเก้ย อายุ 34 หลานชายยายตันหยง ที่เข้าไปนอนกอดมีดพร้าภายในห้องพักชั้นล่างของบ้าน ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบและเชิญตัวออกมา เพื่อนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการ แต่นายเก้ย พยายามต่อสู้ขัดขืน อ้างว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำร้ายยาย หรือทำร้ายใครเลย
ตรวจสอบภายในห้องนอนพบมีดพร้า และมีดปอกผลไม้อย่างละเล่ม อุปกรณ์การเสพยาบ้า บ้องกัญชา และยารักษาอาการป่วยจิตเวช จากการใช้สารเสพเสพติด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพัก เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดมีผลเป็นบวก ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหานายเก้ยว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เป็นภัยต่อสังคม” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โดยนายเก้ยฯ ให้การยอมรับสารภาพด้วยอาการหลอน และตาขวางว่า เมื่อวานเสพยา 40 เม็ด โดยไปเชื่อหรือเซ็นมาจากเพื่อนมาในราคา 1,000 บาท ตกราคาเม็ดละ 25 บาท ทำให้นอนไม่หลับ และยายใช้ให้ตนไปตัดต้นไม้ แต่ตอนขอเงินค่าจ้างยาย 100 บาท แต่ยายไม่ให้ จึงโมโหเดินควงมีดไปมาในบริเวณบ้าน และนำมีดพร้าไปเคาะเสาไฟส่องสว่างริมถนนหน้าบ้าน และเสาไฟไม่ได้เสียหายอะไรเลย
ตนติดเสพยาบ้ามาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 ทุกวันนี้เสพยาบ้าวันละไม่ต่ำกว่า 10 เม็ด ที่ตนเสพมากเพราะกลุ้มใจที่ถูกแฟนทิ้งไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และมาพบรักใหม่ยังไม่นานเขาก็ลักเอามือถือและจักรยานยนต์ของตนไปใช้และขี่ จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย ตนเคยเข้าบำบัดรักษาที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่หาย เพราะออกมาตนก็เสพอีกเหมือนเคย ส่วนยารักษาที่หมอให้มาก็กินอยู่บ้างแต่ไม่กินประจำ และไม่อยากเข้าไปบำบัดรักษาอาการอีกแล้ว เพราะตนรู้ว่ารักษาตนยังไงก็คงไม่หายกลับมาเหมือนเดิมแล้ว
คุณยายตันหยง อายุ 91 ปี ยายนายเก้ย เล่าว่า แม่ของหลานชายป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ พูดไม่ชัด แต่ก็พอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ติดเสพยาบ้ามานานแล้ว จนมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตาขวาง และใจร้อน เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็จะทุบทำลายข้าวของ แต่ไม่เคยทำร้ายใครในบ้าน มีแต่ข่มขู่ขอเงินไปซื้อยามาเสพเท่านั้น แต่ระยะหลังหลานชายคบผู้หญิงไม่ดีที่ติดเสพยาบ้าเข้าบ้าน ตนและแม่ของเขาเลยไม่ให้เงินเขาอีก วันนี้เขาเลยมีอาการคลุ้มคลั่งอย่างที่เห็น ส่วนผู้หญิงที่ว่าก็ให้ออกจากบ้านเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และขอยืมรถจักรยานยนต์ของหลานชายไป จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นนำมาส่งคืนหลานชายเลย
อยากให้ตำรวจนำตัวหลานชายไปรักษาอีกครั้ง เพราะคิดว่าหลานชายอาการยังไม่หนักมาก ไม่ถึงขั้นทำร้ายใคร คงรักษาหายอยู่ แต่ตนก็กลัว เห็นแต่ในข่าวไม่เว้นแต่ละวัน หากไม่นำไปรักษา ต่อไปคงถึงคิวตนหรือ เพราะหากเสพยาบ้าเข้าไปทำให้ขาดสติ และก็ฆ่าคนแบบง่ายๆเลย หลานชายตนก็บอกตำรวจว่าเสพยาบ้าไป 40 เม็ด ขอเงินได้เท่าไหร่ก็เอาไปซื้อมาเสพจนหมด เวลาเขาเสพก็ไม่บอกเรา มารู้ภายหลังว่าเขาติดเสพมานาน และมันก็สายเกินไปเสียแล้ว ถึงอย่างไรตนก็เป็นห่วงหลานชายคนนี้ อยากให้นำตัวไปรักษาอาการให้หายเป็นปกติ
ด้านนางศศิธร บุญชู อายุ 66 ปี ประธานชุมชนหนองขอนกว้าง 2 เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเขาเสพยาจหลอนอาละวาดคุณยาย และแม่ของเขาที่ป่วยอยู่ในบ้าน ยังไม่เห็นเขาอาละวาดนอกบ้าน กลัวเกิดเรื่องไม่ดีกับคนในชุมชน และใกล้เคียง หรือที่อื่น ตอนเช้าคุณยายบอกว่าเขาถือมีดมาขู่ขอเงิน จึงแจ้งตำรวจมาช่วยนำเขาไปบำบัดรักษาอาการ เพราะเขามีอาการแบบนี้มานานแล้ว เวลาหลอนยาเขาจะตาขวางดูแล้วไม่เป็นมิตรกับคนในชุมชน และกลัวจะได้รับอันตราย ที่ผ่านมาคนในชุมชนก็มาช่วยกันดูแลเขา และคนในครอบครัว เขาก็กินยาปกติ และที่ให้ตำรวจมาจับตัวไปเช่นนี้ ก็เพราะเขาก็เป็นลูกหลานคนในชุมชนของเรา อยากให้เขาหายมาเป็นปกติ