ทลายแก๊งฟอกเงินมังกรเทาพบถอนเงินสดจากเหยื่อกว่า 2.9 พันล้าน

18 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปอท สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการ “ทลายแก๊งฟอกเงินมังกรเทา” โดยเข้าทำการตรวจค้นจับกุม กลุ่มผู้ร่วมขบวนการจำนวน 20 จุด 8 จังหวัด ทั่วประเทศไทย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 10 คน เป็นสมาชิกแก๊งฟอกเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยจำนวน 5 ราย และเจ้าของบัญชีม้าที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 5 ราย​ พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินต่างๆ รวม 210 รายการ เช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชี, รถยนต์ รถจักรยานยนต์, เงินสด, โฉนดที่ดินบ้าน คอนโด, นาฬิกาหรู,กระเป๋าแบรนด์เนมและทรัพย์สินมีค่าต่างๆรวมมูลค่ากว่า 14 ล้านบาทโดยที่สำคัญพบบ้านหรูอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ราคาหลังละ 100 ล้านบาท จำนวน 5 หลัง​ 

โดยพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า​พฤติการณ์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้จะแบ่งออกเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งฟอกเงิน โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อหลอกลวงประชาชนได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก็จะโยกเงินมาบริษัทนอมินีเพื่อทำการฟอกเงิน​ เคสนี้สืบเนื่องจาก​ โดยเมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 ได้มีผู้เสียหายซึ่งต้องการหางานทำเพื่อหารายได้พิเศษได้พบโพสต์ประกาศหางานในสื่อโซเชียลมีเดีย ประกาศว่าเป็นการทำงานพิเศษเสริมรายได้โดยเป็นการรับสินค้าไปแพ็กที่บ้าน ต่อมาผู้เสียหายเกิดความสนใจจึงได้ติดต่อพูดคุย โดยในช่วงแรกคนร้ายได้ชักชวนให้ทำงานพิเศษในรูปแบบออนไลน์ โดยเป็นงานกดไลค์ กดเพิ่มยอดติดตามต่างๆ เมื่อผู้เสียหายได้ทดลองทำงานดังกล่าวปรากฎว่าได้รับเงินจากการทำงานจริงเป็นจำนวนหลายครั้ง จึงหลงเชื่อ​ต่อมีการชักชวนลงทุน​ จนผู้เสียหายยอมลงทุน​ หลังจากนั้นไม่สามารถถอนเงินได้จึงรู้ว่าถูกหลอก​ ซึ่งพบผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันจำนวน 66 คน มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท 

เมื่อสอบสวนพบดำเนินการเป็นขบวนการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีการรับโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดถอนออกจากบัญชี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 32 คน แบ่งเป็นกลุ่มบัญชีม้าคนไทย 10 คน กลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนจีน 2 คน และ กลุ่มขบวนการที่มีการฟอกเงิน 20 คน (ชาวไทย 1 ราย, ชาวจีน 14 ราย, ชาวเกาหลี 5 ราย) 

หลังจากนั้นจึงสืบทราบพบขบวนการนี้มีผู้เสียหายรวมแล้วมูลค่า​ 2,900 ล้าน​ ซึ่งเป็นการรวมมูลค่าความเสียหายทั้งปีที่ผ่านมาซึ่งส่วนใหญ่ความเสียหายที่มาจากการลงทุนคริปโตด้วย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน