พ่อเฒ่า 69 จุดไฟเผาตอซังในที่นาลามคลอกตัวเองดับ

(11 มี.ค.68) วานนี้ ร.ต.อ.วราเทพ โลทัง รอง สว.(สอบสวน) สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุ คนเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ถูกคลอกเสียชีวิตที่ทุ่งนาริมลำห้วยโสม ใกล้วัดเหล่าสะคราม บ้านน้ำทรง หมู่ 8 ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วยฝ่ายปกครอง แพทย์วร รพ.น้ำโสม และอาสากู้ภัยทางหลวง จุดบริการน้ำโสม รุดไปตรวจสอบ 

พบศพนายประมวล อายุ 69 ปี นอนอยู่ใกล้กับกอไผ่ ติดกับแปลงนาข้าว ถูกไฟคลอกทั้งตัว เสื้อผ้าถูกไฟไหม้เกือบหมด ทำให้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความเสียใจของญาติ แพทย์ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบรอยการต่อสู้ ไม่มีบาดแผลอื่นนอกจากถูกไฟไหม้ จึงลงความเห็นถูกไฟคลอกเสียชีวิต ญาติไม่ติดใจกับเหตุที่เกิดขึ้น รับมอบศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 

จากการสอบสวนทราบว่า ที่เกิดเหตุเป็นที่นาของนายประมวล ผู้ตาย ซึ่งเป็นที่นาลุ่มใกล้กับลำน้ำโสม ปีนี้เก็บเกี่ยวได้ผลผลิตดี หลังเก็บเกี่ยวก็เตรียมพื้นที่ เพื่อจะทำการเกษตรช่วงฤดูแล้ง ได้ว่าจ้างรถไถมาไถกลบตอซังข้าว แต่รถที่ว่าจ้างมาทำไม่ได้ อ้างว่าพื้นที่แข็งเกินไป ทำให้แผนการทำพืชฤดูแล้งล่าช้า ผู้ตายออกจากบ้านตั้งแต่เช้า บอกคนในบ้านว่าจะมาที่นา จนกระทั่งช่วงเย็นไม่กลับบ้าน ญาติได้มาตามพบว่ามีไฟไหม้นาข้าว หรือตอซังข้าว จนลามเข้าในพื้นที่สวน ที่อยู่ติดกับนาข้าว และพบผู้ตายโดนไฟคลอกเสียชีวิตแล้ว

ร.ต.อ.วราเทพ โลทัง รอง สว.(สอบสวน) สภ.น้ำโสม เปิดเผยว่า จากการเข้าสอบสวนที่เกิดเหตุ สอบสวนพยาน และการชันสูตรศพ สันนิษฐานว่าผู้ตายเสียชีวิตจากโดนไฟคลอก แต่จะเกิดจากพฤติกรรมแบบไหนยังต้องสอบสวนเพิ่มเติม แต่เมื่อญาติไม่ติดใจเหตุการณ์เสียชีวิต เชื่อว่าน่าจะเกิดจากผู้ตายจุดไฟเผา “ตอซังข้าว” แต่มีกระแสลมแรง หรือลมเปลี่ยนทิศ จนลามมาคลอกผู้เสียชีวิต หลังจากชันสูตรก็มอบศพไปบำเพ็ญศุลตามประเพณี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเสียชีวิตของนายประมวล อายุ 69 ปี เป็นรายแรกของปีนี้ ที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งที่ผ่านมาใน จ.อุดรธานี จะเกิดการเสียชีวิตจากสาเหตุนี้มาต่อเนื่อง ทั้งการเสียชีวิตจากการเผาเอง หรือการเข้าไปดับไฟ ขณะในปีนี้สถานการณ์ไฟป่า-หมอกควัน-การเผาในที่ว่าง จะเกิดขึ้นลดลงจากปีที่ผ่านมาก็ตาม