ลูกจ้างยิ้ม-นายจ้างกลุ้ม รบ.ปรับค่าแรง 400

(13 ธ.ค. 67) ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าจะพยายามปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ  เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ ในที่นี้ หากมีการปรับขึ้นจริงแรงงานที่จะได้รับประโยชน์มีทั้งแรงงานข้ามชาติ และแรงงานไทย

จากการสอบถามความรู้สึกของผู้ใช้แรงงานทั้งแรงงานข้ามชาติ และแรงงานไทย ต่างก็บอกว่า ดีใจหากรัฐจะปรับฐานค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้น โดยแรงงานข้ามชาติ ทั้งกัมพูชา และเมียนมา ที่ทำงานเป็นลูกจ้างประจำกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่  ต่างก็บอกว่า ณ ปัจจุบันนี้ก็ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาทอยู่แล้ว ขณะที่ค่าทำงานล่วงเวลา หรือค่าโอที ตกชั่วโมงละ 60 บาท ทำให้พวกตนมีรายได้ประมาณ 17,000-18,000 บาทต่อเดือน ซึ่งที่ผ่านมาก็ส่งให้พ่อ แม่ และภรรยาที่อยู่ข้างหลัง แต่หากรัฐบาลมีการปรับฐานค่าจ้างขึ้นอีก อาจจะทำให้พวกตนได้รับค่าแรงเพิ่มมากขึ้นต่อวัน ซึ่งก็ดีใจ เพราะจะได้เงินเพิ่มขึ้น

ขณะที่แรงงานไทย ซึ่งทำงานกับบริษัทรับเหมาเช่นกัน บอกว่า ตนเองเป็นแค่ลูกจ้างรายวัน ได้ค่าแรงวันละ 300 เกือบ 400 บาท มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 9,000 -10,000 บาท ดีใจหากรัฐบาลจะปรับค่าแรงเพิ่มขึ้น ตอนนี้ที่ได้ก็ส่งกลับบ้านบ้างแต่ไม่มาก แต่หากมีการปรับขึ้นค่าแรงยืนที่ฐานวันละ 400 บาท ตนได้เงินเพิ่มก็จะส่งกลับบ้านเพิ่มขึ้น

ขณะที่นายนิพันธ์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง งานสถาปัตย์ภายใน บอกว่า หากเป็นงานรับเหมาที่ตนเองรับอยู่ คือ ประเภทงานติดตั้งประตู งานสุขภัณฑ์ หรือเรียกว่างานสถาปัตย์ภายใน การปรับค่าแรงขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 400 บาท ตนเองยังรับไหวอยู่ เพราะปกติจ่ายเกินอยู่แล้ววันละ 450-500 บาท โดยมีลูกน้องจำนวน 7 คน

แต่งานประเภทอื่น เช่น งานทั่วไป ซึ่งค่าส่วนต่างน้อย ผู้รับเหมาก็จะรับไม่ได้แน่นอน งานรับเหมาแต่ละประเภทมูลค่างาน หรือต้นทุนไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากเป็นงานประเภททั่วไป ซึ่งราคางานถูก หากรัฐบาลปรับฐานค่าแรงขึ้นไปอยู่ที่วันละ 400 บาท ก็น่าเห็นใจนายจ้าง จะได้รับผลกระทบหนักอย่างแน่นอน ส่วนตัวก็รู้สึกเห็นใจเพื่อนร่วมอาชีพ