“เท้ง” รับไม้สานต่ออุดมการณ์ ยึดศูนย์กลางคือ “ประชาชน”

“เท้ง” รับไม้สานต่ออุดมการณ์ ยึดศูนย์กลางคือ “ประชาชน”

96409 ส.ค. 67 13:58   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“พรรคประชาชน” แถลงเปิดตัวหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ “เท้ง ณัฐพงษ์” พร้อมนำทีมสู้ศึกเลือกตั้ง 2570 ยืนยันไม่ลดเพดาน แต่จะสุขุมรอบคอบมากขึ้น

(9 ส.ค. 67) วันนี้ที่ตึกไทยซัมมิทมีการเปิดประชุมวิสามัญของ สส.จากอดีตพรรคก้าวไกล ที่ย้ายไปอยู่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล หลังพรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ในที่ประชุมมีการรับรองการเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคประชาชน” ใช้ชื่อย่อว่า “ปชช.” และชื่อภาษาอังกฤษว่า PEOPLE’S PARTY ย่อว่า PP


นอกจากนี้มีการโหวตเลือกนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคอีก 4 คน คือ นายศรายุทธ ใจหลัก เป็นเลขาธิการพรรค, น.ส.ชุติมา คชพันธ์ เป็นเหรัญญิก, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม อดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นกรรมการที่จะมาดูแลทะเบียนพรรค, และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค



หลังการประชุมเสร็จสิ้น ได้มีการเปิดแถลงข่าว โดยนายณัฐพงษ์ เรื่องปัญญาวุฒิ, นายศรายุทธ ใจหลัก, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ


โดยนายพริษฐ์ ระบุว่า นับไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยุบพรรค ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า พวกเราฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วในนามพรรคประชาชน วันนี้อดีต สส.พรรคก้าวไกลทั้งหมด 143 คน ที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และ สก.11 คนจากพรรคก้าวไกล รวมถึงแนวร่วมเครือข่ายทั่วประเทศ มาประชุมกันเพื่อตกลงร่วมกัน จะเดินหน้าต่อ ขับเคลื่อนและผลักดันการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ในนามของพรรคประชาชน 


เหตุผลใช้ชื่อพรรคประชาชนเพราะความเรียบง่าย เพราะเราเป็นพรรคการเมืองโดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เราเชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตย คุณค่าสูงสุดอยู่ที่ประชาชน สถาบันการเมืองทุกสถาบันควรยึดโยงกับประชาชน ถูกตรวจสอบได้โดยประชาชน และดำรงอยู่ อย่างมั่นคงและชอบธรรม ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชนทุกคน 


ในส่วนของสัญลักษณ์ของพรรคจะเป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมมุมกลับ ต่อยอดมาจากแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล



หลังจากนี้พรรคฯ มีภารกิจมุ่งมั่นเชิญชวนประชาชน และอดีตสมาชิกก้าวไกล 100,000 กว่าคน ส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยบทถัดไป สามารถสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ ที่ตั้งเป้าหมายให้ทะลุ 100,000 คน และการร่วมบริจาคให้กับพรรคอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ทะลุ 10 ล้านบาทโดยเร็วที่สุด


โดยจะมีการเปิดรับสมัครทั้งผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์ www.PeoplesPartyThailand.org และในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) จะจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เพื่อเปิดรับสมาชิกและเปิดรับบริจาค โดยใน กทม.จะมีงานใหญ่ที่ Stadium One บรรทัดทอง 


ทางด้าน นายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคคนใหม่ กล่าวว่า เราแสดงให้เห็นแล้วว่า กระบวนการทำให้พรรคประชาชนเป็น สถาบันทางการเมืองสืบต่ออุดมการณ์พรรคตั้งแต่อนาคตใหม่และก้าวไกล วันนี้จากที่ตนได้รับการเลือกเป็นหัวหน้าพรรค สามารถออกมาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าภารกิจของตนและพวกเราจากนี้ เรามีภารกิจสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งปี 2570 ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า และต้องตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ในปี 2566 เป้าหมายขั้นต่ำของเรา เราอยากจะชนะการเลือกตั้งโดยสามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา



นายศรายุทธ ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ซึ่งเราตระหนักเรื่องนี้ดี ตั้งแต่สร้างพรรคอนาคตใหม่ เราจำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก นี่คือที่ที่ต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน เราคาดหวังว่า ในอนาคตอันใกล้เราจะเพิ่มโครงสร้างการเมืองท้องถิ่น และคาดหวังที่สมาชิกพรรคจะไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ และถ้าเราทำสำเร็จ 


ในช่วงจังหวะหนึ่ง นายศรายุทธ กล่าวถึงโครงสร้างพรรคสู่รัฐบาล มีน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เราจะมั่นใจว่า จะมีพรรคที่ต้องการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้ว่า เราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วก็ตาม ขอบคุณครับ”


ในส่วนของ น.ส.ศิริกัญญา ได้พูดถึงข่าวลือที่มีมาก่อนหน้านี้ว่า น.ส.ศิริกัญญา เป็นคนที่จะขึ้นมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะลงแข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น และตนเองก็เป็นคนเสนอชื่อ นายณัฐพงษ์ด้วยความมั่นใจ และมั่นใจว่า นายณัฐพงษ์มีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ที่จะสู้เลือกตั้งในปี 2570 ด้วยความที่นายณัฐพงษ์เป็นคนที่ครบเครื่อง ตั้งแต่เป็นสส.เขตและสส.บัญชีรายชื่อ และบริหารงานเบื้องหลังของพรรคในสายเทคโนโลยี และเป็นคนทำระบบต่างๆ มีส่วนร่วมในการบริหารพรรคโดย ทำให้ตนและเพื่อนสมาชิกมั่นใจให้เสียงสนับสนุนในการรับรองนายณัฐพงษ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ขอโอกาสนี้ในการแก้ข่าวว่า ตนไม่ได้ต้องการที่จะเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน



ในช่วงของการตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน มีผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าพรรคประชาชนนั้นจะมีการลดเพดานการเรียกร้องในเรื่องนี้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคไม่เคยลดเพดานในเรื่องอะไร ซึ่งการเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เพื่อไม่ให้นำมาใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง จะต้องผลักดัน เดินหน้าแก้ไขกฎหมายนี้ ที่ยังมีปัญหาอยู่ 


เมื่อถามถึงการต่อสู้คดี ที่ 44 สส.ถูกร้องเรียนจริยธรรม ใน ป.ป.ช. ระบุว่า คำร้องที่ยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ต่างจากคดียุบพรรค การกระทำของ สส. และองค์ประกอบต่างกัน ส่วนตัวไม่กังวลและพร้อมชี้แจง ทั้งยืนยันว่า เราไม่ได้สร้างพรรคมาเพื่อต่อรองกับกลุ่มอำนาจ แต่ยืนอยู่บนหลักการ โดยจะเห็นได้จากจำนวน สส. และ สก. ที่ย้ายมาครบทั้งหมด จึงไม่น่าจะเป็นประเด็นงูเห่า


ในช่วงหนึ่งมีผู้สื่อข่าวถามถึงการยืนระยะของพรรคประชาชน เนื่องจากนี่เป็นพรรคที่ 3 แล้วในระยะเวลาที่ผ่านมาเพียงแค่ 6 ปี ทางพรรคมีความมั่นใจเรื่องการยืนระยะของพรรคอย่างไร นายณัฐพงษ์ระบุว่า


“อายุจะสั้นหรือยืนไม่ได้อยู่ที่เรา ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าสั้นหรือยืนอยู่ที่กลุ่มขั้วอำนาจเก่าหรือกลุ่มคนที่ไม่ได้ถูกรับเลือกมาจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน ใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการทุบทำลายเรา



ในขณะเดียวกันเราจะไปเอาสิ่งที่เกิดขึ้นมากดทับ มาปิดปากตัวเองไม่ให้เราเดินหน้าต่อก็ไม่ได้ ถ้าเราทำแบบนั้นบรรดาพ่อแม่พี่น้องที่สนับสนุนเราโดยตลอดมา ก็อาจจะขาดความศรัทธาในตัวเราก็ได้ ผมยืนยันเราจะเดินหน้าทุกอย่างต่อไป เพียงแต่เราจะไม่ประมาท ทำทุกอย่างด้วยความสุขุมรอบคอบ” 


นายณัฐพงษ์ ยังเปิดเผยถึงการพูดคุยกับนายธนาธร ว่าต้องมีการพัฒนาตัวเอง ต้องเขียนนโยบายต่าง ๆ พร้อมกับการทำงานหนัก เพื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า ธนาธร ไม่มีอิทธิพลทางความคิดต่อตนเอง แต่สิ่งที่มีอิทธิพล คืออุดมการณ์ความเชื่อ

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง