“เอกนัฏ” ยันพรรคยังไม่แตก - ทำงานเต็มที่ไม่หวั่นข่าวหลุดตำแหน่ง

(3 มิ.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความแตกแยกภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า เดี๋ยวต้องไปคุยกัน ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ตนและ สส.ส่วนใหญ่ก็คุยกันตลอดเวลา คิดว่าปัญหาทุกอย่างคุยกันได้ 

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติยังอยู่กันแน่นหรือแตกแล้ว นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังอยู่กัน ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพ สส.ร่วมรับประทานข้าวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ทาง สส.ได้มาบอกกับว่าแค่ไปทานข้าวกันเฉย ๆ หรืออย่างก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีคนย้ายออกจากพรรค หลายคนก็ออกมาปฏิเสธแล้ว คิดว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้ทุกพรรคการเมืองถือว่าเป็นเรื่องปกติ อาจมีสิ่งที่คาใจ หรือมีปัญหากันบ้าง แต่ก็เปิดรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งก่อนช่วงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ตนก็พูดคุยกับ สส.ตามปกติ

ส่วนกระแสที่กดดันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ออกจากตำแหน่งนั้น คิดว่าตำแหน่งของนายพีระพันธ์ุ อยู่สูงจึงต้องมีแรงกดดันเป็นธรรมดา เพราะการทำงานต้องประสบกับความท้าทาย ซึ่งเชื่อว่านายพีระพันธ์ุ เจอกับปัญหา แต่ไม่ค่อยพูด เป็นคนที่สู้งานอย่างเดียว

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในส่วนคดีถุงยังชีพของนายพีระพันธุ์ ที่อยู่ในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เชื่อว่า 

ชี้แจงได้หมด และพร้อมไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.และหน่วยงานอื่นๆ

ขณะที่กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี  (ครม.) นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ตราบใดที่อยู่ตรงนี้ก็ทำงานเต็มที่ ส่วนการปรับ ครม.ก็เข้าใจกันดีว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนอนาคตเป็นอีกเรื่อง

เมื่อถามว่ามีการส่งสัญญาณมาจากนายกรัฐมนตรีบ้างหรือยัง นายเอกนัฏ ยิ้มพร้อมกล่าวว่า ไม่มี ทั้งตนและนายพีระพันธ์ุ ก็ยังไม่ได้รับสัญญาณ และที่ผ่านมาตนก็ทำงานกับนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการแก้ข้อบังคับเรื่องการพ้นสมาชิกภาพ จากการสร้างความขัดแย้งหมายถึงนายสุชาติ ใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า การแก้ข้อบังคับทำมาตั้งแต่ช่วง มี.ค.-เม.ย. แล้ว ตั้งแต่การประชุมใหญ่พรรค เป็นการปรับแก้ให้ตรงกับรัฐธรรมนูญ คงไม่ได้ไปแก้เพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น และไม่ได้เป็นการแก้เพื่อขู่อีกฝ่าย ยืนยันไม่ได้มีนัยยะอะไรทั้งสิ้น เพราะการประชุมใหญ่ทุกปีก็มีการแก้ข้อบังคับพรรค เพราะข้อบังคับบางตัวยังไม่มีความชัดเจน

จนถึงตอนนี้ นายเอกนัฏยังไม่ได้เคลียร์ใจกับนายสุชาติ แต่วันนี้อาจจะได้เจอ