“ทวี” อวดผลงาน ป.ป.ส. แค่ 8 เดือน จับยาบ้า 700 ล้านเม็ด

“ทวี” อวดผลงาน ป.ป.ส. แค่ 8 เดือน จับยาบ้า 700 ล้านเม็ด

49717 มิ.ย. 68 17:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“ทวี” อวดผลงาน ป.ป.ส. แค่ 8 เดือนยึดของกลางไปแล้ว 700 ล้านเม็ด พร้อมเข็นเรื่องแก้ไขกฎหมาย ล้างประวัติผู้เสพก้าวพลาดที่ผ่านการบำบัดแล้วให้มีงานทำ - “เลขา ป.ป.ส.” ชี้สถานการณ์ใช้ยาเสพติดอื่นลดลงจริง แต่ปัญหาการใช้ยาบ้าในไทยยังคงระบาด

(17 มิ.ย. 68) ที่ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ อาคาร 2 ชั้น 3 สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. น.ส.อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายเบเนดิกต์ ฮอฟมันน์ ผู้แทน สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก และคณะเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดต่างประเทศประจำประเทศไทย ร่วมแถลงผลการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ห้วงเดือน ต.ค.67-พ.ค.68) 


โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ตนต้องบอกว่ายาเสพติดมีมากกว่า 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ติดผู้เสพผู้ใช้ และอีกกลุ่มคือผู้ค้ายาเสพติด แต่ตอนนี้กลุ่มใหญ่ที่สุดกลับเป็น กลุ่มที่ 3 คือ องค์กรยาเสพติดระหว่างประเทศ เพราะรายได้จากตรงนี้กลายเป็นรายได้สูงสุดของบรรดาอาชญากรรม โดยเฉพาะอาชญากรรมยาเสพติด มีการใช้ชีวิตของมนุษย์เป็นเครื่องมือ ไม่ได้ใช้เครื่องจักร เพราะใช้คนติดคนเสพ ทำให้เป็นโรคสมองติดยา หรือติดยาขาดไม่ได้ ส่วนอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ก็คือ การใช้เสรีภาพของมนุษย์เป็นเครื่องมือ เพราะอาจต้องเสียชีวิต หรือต้องติดคุกถูกจองจำ เพราะกลายเป็นคนลำเลียงยาเสพติด เป็นคนค้ายาเสพติด ส่วนนักค้ายาเสพติด หรือองค์กรอาชญากรรมยาเสพติดจะอยู่เบื้องหลัง และมักจะอยู่ในที่ที่ปลอดภัยจากรัฐใดรัฐหนึ่ง ไปอยู่ในดินแดนที่รัฐต่าง ๆ ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ อาทิ พื้นที่ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จึงเป็นปัญหายาเสพติดที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีความสำคัญ โดยไทยได้ยกระดับปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนและวาระแห่งชาติ 


พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า สำนักงาน ป.ป.ส. มีข้อมูลในส่วนของการจับกุมเรื่องยาเสพติด โดยยึดของกลางยาบ้าได้ถึง 700 ล้านเม็ดเศษ เกือบ 800 ล้านเม็ด อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ (2568) มีผู้ถูกดำเนินคดียาเสพติดแล้ว 180,000 ราย และถูกนำตัวเข้าเรือนจำฯ เพื่อจำกัดเสรีภาพ แต่กลับกันปริมาณยาเสพติดก็ยังรุนแรงขึ้น วันนี้รัฐบาลและทุกภาคส่วนได้เห็นความสำคัญนี้ จึงอยากมาแจ้งทิศทางที่ดี หรือข่าวสารที่ดีขึ้น เพราะการทำงานร่วมกันของภาครัฐ โดยเฉพาะ ป.ป.ส. ในฐานะผู้กำหนดนโยบาย และขับเคลื่อนแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะยาเสพติดที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่ไม่มีผลิตในไทย วันนี้เราเน้นเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ 


พ.ต.อ.ทวี เผยต่อว่า ป.ป.ส. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อควบคุมสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยมี พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นประธาน พร้อมด้วยหน่วยงานทุกภาคส่วน ซึ่งเราได้สกัดกั้น 14 จังหวัด 52 อำเภอ เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย อย่างไรก็ดี การทำงานตรงนี้ได้ผลดีมาก เนื่องจากปริมาณการจับยาเสพติดวันนี้มีมากกว่า 700 ล้านเม็ด ขณะที่ในปีที่มีการประกาศชนะสงครามยาเสพติด เราจับได้แค่ 70 ล้านเม็ดต่อปี แต่ 700 ล้านเม็ดใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก


พ.ต.อ.ทวี เผยด้วยว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติด มันเป็นปัญหาของคนทุกหมู่บ้าน ของแม่ ของพ่อ ของครอบครัว สิ่งหนึ่งคือจะทำอย่างไร ทำพลังจิตอาสาร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เพราะยังมีพืชยาเสพติด 2 ตัวที่เราไปยกเลิก คือ กระท่อมและกัญชา เชื่อว่าในอนาคตหลังเปิดสภา จะทำเรื่องการควบคุมกัญชาและกระท่อมให้มากกว่านี้ เพราะตอนนี้มีการใช้กระท่อมและกัญชาในทางที่ผิดในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ 


“สำหรับสารเสพติดประเภทพืช เช่น กัญชาและกระท่อม ที่มีการเปลี่ยนสถานะทางกฎหมายในช่วงที่ผ่านมา พบว่าการนำออกจากบัญชียาเสพติดส่งผลให้จำนวนผู้เสพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลิตน้ำกระท่อมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอาหารและยา และในบางพื้นที่ท้องถิ่นได้ร้องขอให้มีมาตรการควบคุมการจำหน่ายกระท่อมริมถนน โดยจะมีการประสานกับกระทรวงคมนาคม เพื่อใช้กฎหมายด้านจราจรและความปลอดภัยมาร่วมควบคุมด้วย” รมว.ยุติธรรม ระบุ.


พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า ประเทศไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 103 ของโลกในด้านความเสี่ยงจากยาเสพติด โดยเฉพาะยาเสพติดบางประเภทที่ถูกนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น ไอซ์ เคตามีน และเฮโรอีน ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งหน้าสู่ประเทศปลายทางผ่านประเทศไทยในฐานะประเทศทางผ่าน ขณะที่ยาบ้ายังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศ พร้อมเน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญ คือ ต้องควบคุมสารตั้งต้นเคมีภัณฑ์เพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติด ซึ่งถือเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยต้องผลักดันให้เป็นวาระความร่วมมือระดับนานาชาติอย่างจริงจัง


เมื่อถามว่าเหลือเวลาอีกเพียง 2 ปี จะมีการใช้สมุดพกตัดคะแนนผู้ว่าราชการจังหวัดที่ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดเรื่องยาเสพติดหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี แจงว่า นอกจากผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ก็ยังมีผู้กำกับการ นายอำเภอ หมอ ฯลฯ แต่เราก็มีมาตรการในการขับเคลื่อนโดย ป.ป.ส. แต่ต้องไม่ใช่เพียงเท่านี้ ชุมชนต้องลุกขึ้นมาร่วมกันด้วย


พ.ต.อ.ทวี ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ รัฐบาลเตรียมเสนอแก้ไขกฎหมายให้ผู้ที่เคยเสพ หรือติดยาเสพติดแต่ผ่านการบำบัดสามารถประกอบอาชีพได้ โดยเฉพาะอาชีพที่ขาดแคลนแรงงาน เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับผู้มีประวัติอาชญากรรม ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้เสนอแนวทางใหม่ โดยให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมยืนยันว่าผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูแล้ว และเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป เพราะทุกคนมีสิทธิ์ก้าวพลาด โดยเฉพาะการพลาดเรื่องยาเสพติด เราต้องสร้างโอกาสให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อย่างมีศักดิ์ศรี


ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ปิดท้ายว่า การป้องกันยาเสพติดให้ดีที่สุด ตือ การลงพื้นที่เดินทางไปป้องกันในครอบครัว เนื่องจากน่าห่วงใยที่พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ได้ประสบพบกับยาเสพติด ดังนั้น สิ่งนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยอย่างยิ่งเรื่องมาตรการชุมชนเข้มแข็ง ตนจึงขอความร่วมมือว่าในส่วนของคนที่ก้าวพลาดไปใช้ยาเสพติด ถึงเวลาแล้วที่เราต้อง Harm Reduction คือ ต้องวิจัยสิ่งทดแทนการใช้ยาเสพติด แม้เป็นเรื่องท้าทายก็ตาม


ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงผลการดำเนินงานประเด็นสำคัญใน 5 มาตรการ ว่า แนวโน้มการแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทยลดลง หากดูจากจำนวนคนไทยในปัจจุบัน 64 ล้านคน ซึ่งลดลงทุกปี และเมื่อมีนักวิชาการดำเนินการวิจัย รวบรวมข้อมูล มีการไปสุ่มถามกลุ่มคนที่ใช้ยาเสพติด ว่าในจำนวน 30 วัน มีคนใช้ยาเสพติดกี่ราย และในจำนวน 20-30 วันมีกี่ราย จึงพบว่า ในปี 2567 ผู้ที่ใช้ยาเสพติดใน 30 วัน มีจำนวน 1,201,677 ราย ขณะที่ใช้ใน 20-30 วันของปี 2567 มีจำนวน 330,522 ราย จึงต้องย้ำว่า ยาเสพติดลดลดจริง ๆ เราต้องเชื่อนักวิชาการที่ได้ลงสำรวจทำวิจัย มีการเก็บตัวอย่างอย่างละเอียด จะเห็นว่าสถานการณ์ผู้ติดยาเสพติดในไทยลดลง แต่เรื่องยาบ้าในไทยที่ได้รับความนิยม พบว่า ปี พ.ศ. 62 มีการสำรวจคนอายุระหว่าง 12-65 ปี พบว่า มีการใช้ยาบ้าใน 20-30 วัน จำนวน 91,329 ราย ขณะที่ปี 2567 กระโดดไปถึง 281,159 ราย ก้าวกระโดดอย่างน่ากลัว อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยาเสพติดอื่น ๆ ลดลง 


“ส่วนของไอซ์ในปี 62 พบคนไทยติดไอซ์ มีการใช้ไอซ์ใน 20-30 วัน จำนวน 60,199 ราย ขณะที่ในปี 67 กลับพบใช้ไอซ์ใน 20-30 วัน จำนวน 10,775 ราย ทั้งนี้ ยาบ้าคือยาเสพติดที่คนไทยใช้มากที่สุด รองลงมาคือเฮโรอีน แม้ปัญหายาเสพติดลดลง แต่ยาบ้าไม่ได้น้อยลง ผู้บริหารต้องคิดให้ชัดเจน” เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุ.


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว กระท่อมและกัญชาอยู่ในกลุ่มที่ต้องจับกุม แต่รัฐบาลตอนนั้นได้ปลดออกจากยาเสพติด แต่ผลกลับน่าตกใจ เพราะคนติดกระท่อมในปี 62 ในห้วงนั้นที่กระท่อมผิดกฎหมาย พบคนใช้กระท่อมใน 30 วัน จำนวน 300,000 ราย แต่พอปลดล็อกกระท่อมแล้ว ยอดจำนวนกลับพุ่งถึง 2.7 ล้านราย ทุกวันนี้วัยรุ่นใช้กระท่อมผสมยาเแก้ไอ เป็น 4*100 ทำร้ายร่างกายพ่อแม่และคนอื่น เราจะทำอย่างไรให้กระท่อมและกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด เพราะมันทำลายเยาวชน ทั้งนี้ เรากำลังจะหายาทดแทนยาบ้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ไทยจะร่วมกับสมาชิกหายาทดแทนยาบ้า ถ้าทำสำเร็จ เราจะยกระดับว่าเป็นการไม่แก้ปัญหาวนอยู่ในอ่าง


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ปิดท้ายว่า สำหรับผลการยึดทรัพย์สินค้าของนักค้ายาเสพติด จากปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม มีดังนี้ ครั้งที่ 1 ยึดได้ 66 ล้านบาท, ครั้งที่ 2 ยึดได้ 101 ล้านบาท, ครั้งที่ 3 ยึดได้ 80 ล้านบาท ดังนั้น รวม 3 ครั้ง เรายึดทรัพย์แล้ว 181 ล้านบาท


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat