พ่อแม่สาววัย 35 ปี ถูกตำรวจรวบผิดตัวกลางไร่อ้อย ร้องขอความเป็นธรรมช่วยเยียวยาครอบครัว

พ่อแม่สาววัย 35 ปี ถูกตำรวจรวบผิดตัวกลางไร่อ้อย ร้องขอความเป็นธรรมช่วยเยียวยาครอบครัว

69420 ธ.ค. 67 18:02   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

หญิงวัย 35 ปี ถูกตำรวจนครบาลบางยี่ขัน นำหมายศาลเข้าจับกุมกลางไร่อ้อย ถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน นำตัวไปสอบสวนที่ สน.บางยี่ขัน ข้ามคืนถึงรู้ว่าจับผิดตัว ชื่อ-นามสกุล เหมือนกัน แม่หญิงวัย 35 ปี วอนขอความเป็นธรรม เรียกร้องขอช่วยเยียวยาครอบครัวต่อกรณีที่เกิดขึ้นบ้าง

(20 ธ.ค.67) ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความเป็นธรรมจาก นายแฮ็ด อายุ 60 ปี และนางหนูภักดิ์ อายุ 57 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หลังจากที่ น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ลูกสาวตนเอง ได้ถูกตำรวจ สน.บางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พร้อมตำรวจ สภ.ภูเขียว ชุดสืบสวน จ.ชัยภูมิ นำหมายศาลอาญา ที่ จ.258 / 2567 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เข้าจับกุม น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี ที่บริเวณไร่อ้อยทิศใต้บ้านโนนเสลา หมู่ 6 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ถูกแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน  


ซึ่ง น.ส.ขวัญครอง หรือ น.ส.พรทิพย์ ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่บุคคลตามหมายจับและปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัว น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา 


นายแฮ็ด อายุ 60 ปี และนางหนูภักดิ์ อายุ 57 ปี พ่อแม่ของ น.ส.พรทิพย์ บอกว่า ที่ผ่านมาลูกสาวของตนเอง ไม่เคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทุกวันทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ที่ผ่านมาเคยถูกหมายศาลแขวงดุสิต มาจับกุมตัว น.ส.พรทิพย์ แล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 58 ลูกสาวตนเองน.ส.ได้ให้ปฏิเสธ ได้ยื่นคำร้องไม่ใช่เป็นบุคคลที่ถูกฟ้อง จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าทำไมมาถูกจับกุมได้อีก


หลังตำรวจภูเขียว นำตัว น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี มาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขี่ขัน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 เวลา 06.09 น. การสอบสวนพบว่าเป็นการจับกุมผิดตัว ซึ่งเมื่อปี 58 ได้มีหมายคำฟ้องต่อศาลแขวงดุสิต มาจับกุมตัว น.ส.พรทิพย์ ได้ให้ปฏิเสธ ได้ยื่นคำร้องไม่ใช่ตัวบุคคลตามที่ถูกฟ้อง และได้ไปเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.กัญญาภัทร


จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ยังได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบนำหมายศาลอาญาบางยี่ขัน เดินทางเข้าจับกุม ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ซึ่งได้ให้ปฏิเสธ ไม่ได้กระทำความผิด แต่เป็นเพราะมีชื่อซ้ำกันตั้งแต่เด็ก พนักงานสอบสวนจึงไม่ได้ควบคุมตัวเข้าห้องขังแต่อย่างใด แต่ได้สอบปากคำ น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี เป็นพยานเข้าประกอบสำนวน เพื่อดำเนินการกับผู้ต้องหาที่แท้จริงต่อไป โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ขวัญครอง หรือน.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี แต่อย่างใด


น.ส.พรทิพย์ อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย กล่าวถึงความรู้สึกที่ถูกจับกุมผิดตัวในครั้งนี้ว่า ไม่ติดใจการทำงานของตำรวจสน.บางยี่ขัน แต่ก็อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ได้รับการเยียวยาต่อกรณีที่มีการจับผิดตัวในครั้งนี้บ้าง โดยตำรวจได้ส่งเงินค่ารถเดินทางกลับบ้าน ที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หลังมาจับผิดตัวมาเพียงแค่ 2,000 บาท เท่านั้นแล้วก็จบเรื่อง

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง