ดราม่า! จนท.สถานีตรวจสอบน้ำหนักพะเยา แจงจับรถบรรทุกขุดดินช่วยน้ำท่วมเชียงราย น้ำหนักเกิน 2 ตันกว่า

จากกรณีดราม่ารถบรรทุกรถแบคโฮกลับจากไปช่วยขุดดินถูกน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย หลังเสร็จงานคนขับได้เดินทางกลับมาตามถนนพหลโยธิน พอถึงเขตจังหวัดพะเยา ได้นำรถเข้าสถานีตรวจสอบน้ำหนัก พะเยา กท. 484-525 ขาเข้า สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง บ้านห้วยเคียน หมู่1 ต.ต๊ำ อ.เมืองจ.พะเยา แล้วถูกเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ชั่งน้ำหนักจังหวัดพะเยาของกรมทางหลวง ได้จับกุม พร้อมด้วยรถบรรทุกพ่วงบรรทุก รถแบคโฮ น้ำหนักเกิน 2,800 กิโลกรัม และทางเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตรวจสอบน้ำหนัก ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา ดำเนินคดี หากประกันตัวและรถต้องใช้หลักทรัพย์กว่า 320,000 บาท 

โดยกัน จอมพลัง ได้ช่วยจ่ายค่าปรับให้ นอกจากนี้รถขุดคันอื่นๆที่มาช่วยขุดดินออกจากเชียงรายแล้วหากโดนจับน้ำหนักเกิน ทางกันจอมพลังรับปากจะช่วยจ่ายค่าปรับให้ทั้งหมด  

(26 ก.ย. 67) เจ้าหน้าที่ประจำสถานีตรวจสอบน้ำหนักพะเยา ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยว่า วันที่ 25 ก.ย. 67 เวลา11.15 น. ได้มีการดำเนินการทุกอย่างตามความถูกต้อง ซึ่งทางรถบรรทุกอ้างว่ามีการช่วยเหลือน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย แต่ไม่มีเอกสารขออำนวยความสะดวกมาแจ้งขอ ทั้งตำรวจและพื้นที่เพื่อนำขบวน 

รถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งมาคันเดียว บรรทุกน้ำหนักเกินถึง 2,800 กิโลกรัม หรือ 2 ตันกว่า ทางเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตรวจสอบน้ำหนักพะเยา หรือด่านชั่งน้ำหนัก ต้องขอชี้เแจงทำตามหน้าที่ เพราะถ้าไม่ทำตามหน้าที่ ปปช.ก็แจ้งมาตรา 157 ทางเจ้าหน้าที่ก็จะโดนไล่ออก 

เพราะฉะนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำตามหน้าที่ และขอความเห็นใจประชาชนเข้าใจด้วยว่าการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นการรักษาถนนท้องถนน โดยถ้าคุณจะอ้างว่าไปช่วยน้ำท่วม แต่คุณทำผิดกฎหมายซะเองมันจะมีกฎหมายไว้ทำไม

เมื่อคนไปช่วยเหลือน้ำท่วม คุณต้องมีหนังสือเอกสารมาแจ้งขออำนวยความสะดวก ถ้าคุณมีหนังสืออำนวยความสะดวกหรือให้ตำรวจนำขบวนมันก็ไม่มีปัญหา และในตอนที่เอามาช่วยตอนลากขึ้นไปเอาอีกหัวลาก แต่ขากลับมาใช้อีกหัวลาก ซึ่งตัวหัวลากขากลับมันใหญ่กว่า น้ำหนักมันเพิ่มขึ้น 

เพราะฉะนั้นทางด่านต้องทำตามหน้าที่ ถ้าไม่ทำต้องโดนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 และยังต้องถูกโดนสอบวินัย และเจ้าหน้าที่บางคนยังเป็นลูกจ้างประจำเงินเดือนแค่ 8,400 บาท ถ้าเขาถูกไล่ออกแล้วลูกเมียเขาอีก ต้องอยากให้เข้าใจไปว่าการทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่งั้นเขามีกฎหมายไว้ทำไม