เมาได้ที่ลวนลามเมียเพื่อน ก่อนโดนเชือดดับคาที่
เมาได้ที่ลวนลามเมียเพื่อน ก่อนโดนเชือดดับคาที่
ตั้งวงกินเหล้า เมาได้ที่ลวนลามเมียเพื่อน สุดท้ายโดนเชือดดับคาที่
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 ผุ้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุใช้อาวุธมีดฆ่ากันตาย ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ 9 ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 9 ต.ค.67 ซึ่ง พ.ต.อ.อำไพ ชุมช่วย ผกก.สภ.ควนมีด ได้รับรายงาน ก่อนสั่งการให้ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ รักด้วง รอง สว.สส.สภ.ควนมีด และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนมีด รวมทั้งกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสงขลา รุดไปตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุ บริเวณขนำข้างบ้าน พบศพนายคมกฤต (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่พื้นขนำข้างเสา บริเวณลำคอถูกเชือดด้วยของมีคม เป็นแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่ ส่วนที่ศีรษะข้างซ้าย พบรอยแผลแตกถูกตีด้วยของแข็ง ตรวจสอบโดยรอบพบอาวุมีดสแตนเลส ด้ามจับสีดำ ยาว 20 ซม. จำนวน 1 เล่ม กับท่อนไม้เปื้อนเลือดยาว 50 ซม. จำนวน 1 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนคนก่อเหตุ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อนายบุญยืน (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.ควนมีด
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า นายบุญยืน คนก่อเหตุ ได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือสังหารนายคมกฤต โดยนายบุญยืน ได้ตั้งวงกินเหล้ากันกับภรรยาตน และมีผู้ตายร่วมวงด้วยที่ขนำข้างบ้าน ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ พอตกเย็นเหล้าหมด นายบุญยืนได้ออกไปซื้อเหล้า และช่วงจังหวะกลับมาบ้าน พบว่านายคมกฤต ผู้เสียชีวิต ได้ลวนลามและพยายามจะข่มขืนภรรยาของนายบุญยืน ทำให้นายบุญยืน ใช้ท่อนไม้ตีไปที่ศีรษะของนายคมกฤต จากนั้นได้หยิบมีดที่วางอยู่ในวงเหล้า มาเชือดคอนายคมกฤตจนเลือดไหลนองเสียชีวิตคาที่
อย่างไรก็ตาม ระหว่างสอบปากคำนายบุญยืน นั้นจู่ๆก็บอกว่า ตนรับสารภาพแทนภรรยา โดยบอกว่า ภรรยาเป็นคนก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะคำให้การของนายบุญยืน น้ำหนักพุ่งไปที่นายบุญยืนมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานเสียก่อน ว่าใครเป็นคนลงฆ่าผู้ตายกันแน่ หลังสอบปากคำแล้วเสร็จชั่วคราว จึงควบคุมตัวนายบุญยืน ไว้ที่ สภ.ควนมีด เพื่อรอสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
และเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพคลองเป๊ยะ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบร่างให้ทางญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ล่าสุด (11 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งได้พบกับแม่ติ๊ก (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน และลูกสาวเจ้าของบ้าน ซึ่งเมื่อ "แม่ติ๊ก" เห็นหน้าผู้สื่อข่าวก็ได้เดินหลบหน้าเข้าไปในบ้าน และให้ลูกสาวมาสัมภาษณ์แทน พร้อมกับพาไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นแคร่ไม้อยู่ข้างบ้าน เบื้องต้น พบกองทรายนำมาถมกองเลือดและยังมีเลือดซึมออกมา ส่วนรอบๆมีรอยเลือดกระเด็นติดขวดพลาสติกและกระสอบปุ๋ย
จากการสอบถาม ลูกสาวของเจ้าของบ้าน ให้ข้อมูลว่า ตอนนั้นตนนอนอยู่ในห้อง กำลังเปิดเพลงฟังอยู่ และเห็นผู้ตายมานั่งกินเหล้าตั้งแต่บ่าย พอช่วงเวลา 4 โมงเย็น ได้ยินเสียงทะเลาะกันเรื่องอะไรไม่รู้ และทางนายบุญยืน ก็ได้ไล่ผู้ตายให้กลับบ้าน แต่ก่อนนั้นได้ยินเสียงรถ จยย.ของนายบุญยืน ขี่เข้ามาบ้านเป็นรอบที่ 2 ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันเลย จากนั้นเสียงก็เงียบไปและตนได้เดินมาเข้าห้องน้ำด้านหลังบ้าน ก็เห็นผู้ตายนอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ส่วนใครลงมือนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดช่องเขา ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ ซึ่งเป็นที่จัดงานศพของนายคมกฤต ได้พบกับญาติของผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพซึ่ง ที่ได้รับแจ้งเหตุคนแรก โดยทางญาติได้บอกถึงนิสัยของผู้เสียชีวิตว่า เป็นไปไม่ได้ที่เวลากินเหล้าแล้วจะเมาจนลวนลามภรรยาของผู้ก่อเหตุ ตามที่ผู้ต้องหาให้การ และกล่าวด้วยว่า นายคมกฤต ผู้เสียชีวิตนั้น เป็นคนนิสัยดี เฮฮา "ถ้าจะให้ทำเรื่องอย่างว่าคงไม่มีแน่"
จากการสอบถาม "พี่หน่อย" (สงวนชื่อ-สกุลจริง) เจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ ระบุว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ อสม. จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ กู้ภัยฯ บอกว่า "อย่าเข้าไปเลย ผู้ตายได้เสียชีวิตแล้ว และคนก่อเหตุก็ยังอยู่ข้างใน" หลังทราบว่า สาเหตุมาจากผู้ตายไปลวนลามเมียของนายบุญยืนนั้น ตนชื่อว่า "คงไม่เป็นความจริง" สาเหตุจริงๆน่าจะมาจากในวงเหล้ามากกว่า ซึ่งผู้ตายก็เมาตามปกติ คงไม่ได้ถึงขั้นลวนลามแน่นอน
ส่วนนิสัยของสองผัวเมียนั้น ชอบกินเหล้า เมาทะเลาะกันเป็นประจำ และมักจะมารักษาบาดแผลที่อนามัย (รพ.สต.) ซึ่งก่อนหน้านี้ ภรรยาของนายบุญยืน เอาน้ำมันมาราดตัวนายบุญยืนแล้วจุดไฟเผา ทำให้ไฟไปติดที่ตัวของภรรยาเองด้วย ทั้งคู่ก็มารักษาที่อนามัย ภรรยานายบุญยืนก็ยังยืนด่านายบุญยืนอยู่ห้องทำแผล
ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 นายบุญยืนโดนวัวขวิดจนได้รับบาดเจ็บ พอช่วงทำแผล ภรรยาของนายบุญยืน ก็มายืนด่านายบุญยืนอีก ซึ่งนิสัยของภรรยานายบุญยืน เป็นคนอารมร้าย และ เชื่อว่า นายบุญยืนไม่ได้ก่อเหตุฆ่านายคมกฤตคนเดียวแน่นอน
ส่วนทางด้านคดีนั้น ทาง พ.ต.อ.อำไพ ชุมช่วย ผกก.สภ.ควนมีด แจ้งว่า เบื้องต้นหลังจากที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุคือ นายบุญยืน ก่อนหน้านี้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุหลังจากที่กลับมาจากซื้อเหล้า แต่เมื่อช่วงที่มีการทำแผนหรือคำให้การภายหลัง ปรากฏว่า เจ้าตัวกลับอ้างว่าเป็นภรรยาที่เป็นคนลงมือฆ่า ซึ่งในประเด็นนี้ทางตำรวจ ก็ต้องมีการตรวจสอบ โดยจะมีให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เพื่อหาพยานหลักฐาน รวมไปถึงพยานวัตถุหรือสิ่งอื่นๆ ว่าสอดคล้องกับคำรักษาภาพ หรือคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุหรือไม่
ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ก็คิดได้ 2 มุม เพราะผู้ต้องหาเองก็สามารถพูดหรือให้การอะไรก็ได้ ในส่วนของนายบุญยืน ก็ต้องไปพิสูจน์ตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายที่ชั้นศาล แต่ในส่วนของภรรยา ที่ถูกพาดพิงนั้น ทางตำรวจเอง ก็ต้องมีการเรียกมาสอบปากคำ รวมถึงหาข้อมูลเชื่อมโยงเพิ่มเติมว่า ใช่ผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่
"ตอนนี้ ทางตำรวจยังไม่ได้มีหมายเรียกหรือออกหมายจับในส่วนของภรรยา เนื่องจากต้องรอพยานหลักฐานตามที่นายบุญยืน สามีให้ข้อมูลไป ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝั่งผู้เสียชีวิตและฝั่งผู้ก่อเหตุ"
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนมีด ได้ควบคุมตัวนายบุญยืน ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสงขลา ซึ่งระหว่างนายบุญยืนเดินไปขึ้นรถฝากขัง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไรกันแน่ และอยากจะขอโทษญาติฝั่งผู้ตายด้วยหรือไม่ แต่นายบุญยืน ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขับรถฝากขัง ออกจากโรงพักไป